ปินส์-เวียดนาม สหรัฐ รุมจวกจีน ออกกม.คุมทำประมงในทะเลจีนใต้

     สำนักข่าวเอพีและรอยเตอร์รายงานว่า ฟิลิปปินส์และเวียดนามออกมาประณามกฎหมายใหม่ของจีนที่กำหนดให้ประมงต่างชาติจะต้องขออนุญาตจากทางการจีนก่อนที่จะเข้าไปในน่านน้ำทะเลจีนใต้ หลังจากกฎหมายใหม่ในการจำกัดการทำประมงในทะเลจีนใต้ได้ผ่านความเป็นชอบจากทางการมณฑลไหหลำเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งหลายประเทศที่ต่างอ้างสิทธิ์ในบางส่วนของทะเลจีนใต้ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลซีย บรูไนและเวียดนาม ต่างปฏิเสธที่การอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ของจีนดังกล่าว

     โดยเมื่อวันที่ 10 มกราคม กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์แถลงว่า กฎหมายใหม่ของจีนยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น และทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ยุ่งยากมากขึ้นโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังเป็นภัยต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค โดยนายราอูล เฮอร์นันเดซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ข้อบังคับของจีนเป็นการละเมิดต่อเสรีภาพในการเดินเรือ และสิทธิในการทำประมงของทุกรัฐในทะเล พร้อมเรียกร้องให้จีนออกมาชี้แจงเรื่องกฎหมายประมงใหม่ในทันที

     ด้านนายลวง ทันห์ งี โฆษกกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม กล่าวว่า กฎหมายและการกระทำใดๆของจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและไม่ถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นการละเมิดต่ออธิปไตยของเวียดนาม พร้อมกันนี้ เวียดนามขอเรียกร้องให้จีนยกเลิกกฎหมายที่เต็มไปด้วยความผิดพลาด บกพร่อง แล้วหันมาดำเนินการที่จะสร้างสันติภาพและเสถียรภาพขึ้นในภูมิภาค

     ขณะที่สหรัฐอเมริกาเอง ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายการทำประมงของจีนว่า เป็นการกระทำที่ยั่วยุ และอาจทำให้เกิดอันตรายได้

     นางหัว ชุน อิ๋ง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในวันเดียวกันว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายใดๆที่มีอยู่ และยืนยันว่ากฎหมายดังกล่าวและข้อปฏิบัตินั้นไม่ได้มีสิ่งใดที่ผิด โดยย้ำว่า รัฐบาลจีนมีสิทธิ์และรับผิดชอบต่อข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับหมู่เกาะต่างๆและแนวปะการัง รวมทั้งทรัพยากรที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของจีนเอง

     นางหัวกล่าวด้วยว่า กว่า 30 ปีที่ผานมา กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงเป็นไปตามวิธีการปกติ และไม่เคยทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นแต่อย่างใด แต่หากใครรู้สึกอยากจะบอกว่าการแก้ไขหลักการในการทำประมงของจีนที่มีมาเมื่อหลายปีก่อนนั้นจะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาคและเป็นภัยต่อเสถียรภาพของภูมิภาค ก็บอกได้เลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีสามัญสำนึกพื้นฐาน ก็ต้องมีอะไรที่แอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน

     นางหัวยังขอให้สหรัฐอเมริกาถอยห่างออกไป และให้จีนได้พูดคุยกับประเทศอื่นๆเอง ถ้าสหรัฐต้องการที่จะทำให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพขึ้นในภูมิภาคจริง ก็ควรจะเคารพและสนับสนุนการให้แต่ละประเทศพยายามที่จะแก้ปัญหาผ่านการเจรจากันโดยตรง

ขอขอบคุณที่มา : มติชนออนไลน์