'ฟิลิปปินส์' ยื่นฟ้อง 'จีน' ต่อศาลUNแล้ว หนึ่งวันหลังกองกำลัง 2 ฝ่าย 'เผชิญหน้า' ในทะเลจีนใต้

     เอเจนซีส์ – ฟิลิปปินส์ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อศาลกฎหมายทะเลของยูเอ็นในวันอาทิตย์ (30 มี.ค.) คัดค้านการที่แดนมังกรอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังยามฝั่งของสองประเทศที่บริเวณสันดอน “เซ็กคันด์ โธมัส”

     อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ แถลงว่า แดนตากาล็อกได้ยื่นเอกสารหลักฐานและการวิเคราะห์รวมความยาวร่วมๆ 4,000 หน้า โดยทางอิเล็กทรอนิกส์ไปถึงศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเลของสหประชาชาติ ซึ่งตั้งสำนักงานอยู่ที่เมืองฮัมบูร์ก, เยอรมนี แล้วในวันอาทิตย์ เพื่อขอให้ประกาศว่าการอ้างของฝ่ายจีนนั้นละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

     จีนประกาศครอบครองกรรมสิทธิ์ในดินแดนเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ แต่ปรากฏว่ามีพื้นที่หลายๆ บริเวณทับซ้อนกับการอ้างกรรมสิทธิ์ของหลายประเทศในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์, บรูไน, มาเลเซีย, เวียดนาม ตลอดจนไต้หวัน

     เวลานี้มีเพียงฟิลิปปินส์ประเทศเดียวที่ออกมาประกาศในปีที่แล้วว่า จะร้องต่อศาลของยูเอ็นเพื่อขอให้ตัดสินว่าการกระทำของแดนมังกรนี้ขัดต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล โดยที่ศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเลก็ได้ให้เวลาแดนตากาล็อกจนถึงวันอาทิตย์ (30) ในการยื่นเอกสารหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาของฝ่ายตน

     ฟรานซิส จาร์เดเลซา ในฐานะหัวหน้าคณะทนายความของรัฐบาลฟิลิปปินส์ แถลงแสดงความคาดหมายว่า หลังจากนี้แล้ว ทางศาลจะเป็นผู้แจ้งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายทราบว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร โดยที่เขายังไม่สามารถระบุได้ว่า ศาลจะตัดสินคดีนี้เมื่อใด

     อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ หง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงในวันศุกร์ (28) ว่า จีนจะไม่เข้าร่วมแก้ต่างและไม่ยอมรับการพิจารณาตัดสินของศาลระหว่างประเทศแห่งนี้

     โฆษกผู้นี้ข่มขู่ว่า หากฟิลิปปินส์ยังเดินหน้าในเรื่องนี้ ก็จะสร้างความเสียหายให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง อีกทั้งยืนยันว่า จีนมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการและแก้ไขคลี่คลายประเด็นความขัดแย้งต่างๆ เกี่ยวกับทะเลจีนใต้ด้วยการ “ใช้วิธีสนทนาและปรึกษาหารือกัน”

     การตัดสินใจเดินหน้ายื่นหลักฐานต่อศาลยูเอ็นของมะนิลา บังเกิดขึ้น 1 วันหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เรือเสบียงของแดนตากาล็อกเผชิญหน้ากับเรือยามฝั่งของจีน แต่ก็สามารถหลบหลีกจนนำเสบียงไปถึงหน่วยนาวิกโยธินฟิลิปปินส์ ซึ่งประจำอยู่บนสันดอนห่างไกลในทะเลจีนใต้ ที่เป็นจุดพิพาทจุดหนึ่งระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์

     การเผชิญหน้ากันในบริเวณสันดอนเซ็กคันด์โธมัส ซึ่งจัดเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลีย์ บังเกิดขึ้น เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในวันเสาร์ (29)

     ทั้งนี้ เรือลำหนึ่งของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ได้เกยตื้นที่สันดอนดังกล่าวในปี 1999 และแดนตากาล็อกได้จัดส่งทหารหน่วยเล็กๆ ไปประจำที่นั่นเพื่อเป็นการยืนยันอธิปไตยของตน

     ก่อนหน้านี้จีนอ้างว่า เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา หน่วยยามฝั่งของตนประสบความสำเร็จในการขัดขวางความพยายามของฟิลิปปินส์ที่จะส่งเสบียงให้แก่นาวิกโยธินซึ่งอยู่ที่นั่น บีบบังคับให้กองทัพแดนตากาล็อกต้องใช้วิธีทิ้งเสบียงลงมาทางอากาศ

     กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์บอกว่า ทั้งสันดอนเซ็กคันด์โธมัส และดินแดนพิพาทอื่นๆ ต้องเป็นของตน ตามอนุสัญญากฎหมายทะเลของยูเอ็นปี 1982 ซึ่งกำหนดว่าดินแดนในทะเลที่ห่างจากชายฝั่งออกไป 200 ไมล์ทะเล ถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของชาติเจ้าของชายฝั่งนั้นๆ ทั้งนี้ สันดอนซึ่งเกิดการพิพาทล่าสุดนี้ อยู่ห่างจากเกาะปาลาวัน ของฟิลิปปินส์ราว 200 กิโลเมตร แต่อยู่ห่างจากผืนดินที่อยู่ใกล้เคียงที่สุดของจีนประมาณ 1,100 กิโลเมตร

     อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจีนโต้แย้งโดยยกหลักฐานความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ เพื่อยืนยันว่าดินแดนส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้เป็นของตนมาแต่โบราณกาล

ขอขอบคุณที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์