ผู้นำจีนขอกระชับ สัมพันธ์'อาเซียน' เลี่ยงพิพาททะเล

       ประธานาธิบดีจีนกล่าวกระตุ้นกระชับความสัมพันธ์กับประชาคมอาเซียน เน้นด้านความร่วมมือทางน่านน้ำ แนะแก้ปัญหาทะเลพิพาทด้วยวิธีสันติเพื่อรักษาความมั่นคงในภูมิภาค

       ในวันพฤหัสบดี สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวกับสภาอินโดนีเซียว่า จีนและสมาชิกทั้ง 10 ประเทศของประชาคมอาเซียน ควรฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน และแก้ไขปัญหาพิพาทเขตแดนและน่านน้ำด้วยวิธีการสันติ เพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค

       สีกล่าวว่า "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือหนึ่งในเขตสำคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเล จีนพร้อมที่จะเพิ่มความร่วมมือทางทะเลกับอาเซียน จีนรับรู้ถึงความสำคัญของบทบาทของอินโดนีเซียในอาเซียน และพร้อมทำงานร่วมกับอินโดนีเซียและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความเจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกัน"

       ทั้งนี้ สีเลือกที่จะแสดงความเห็นของเขาในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไม่มีข้อขัดแย้งกับจีนในประเด็นการแย่งชิงเขตแดนทางทะเล และมักเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว นอกจากนี้ สียังเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่กล่าวต่อหน้าสภาอินโดนีเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

       ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งคู่แตกหักเมื่อทศวรรษที่ 1960 หลังอินโดนีเซียกล่าวหาว่าจีนอยู่เบื้องหลังความพยายามปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนจะกลับมาฟื้นฟูสัมพันธ์อีกครั้งในทศวรรษที่ 1990

       ผู้นำจีนรายนี้เดินทางถึงกรุงจาการ์ตาเมื่อวันพุธ และได้พบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ซึ่งรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายก็ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือในอุตสาหกรรมหลายภาคส่วน รวมถึงการท่องเที่ยว เทคโนโลยี และการวิจัยอวกาศ

       นอกจากนี้ ธนาคารกลางของอินโดนีเซียและจีนยังสามารถบรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนเงินตรามูลค่า 1.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยหนุนค่าเงินรูเปียที่กำลังตกต่ำหากว่าจำเป็น การค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นจาก 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปี 2548 เป็นกว่า 6.62 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปี 2555
หลังการเยือนอินโดนีเซีย สีมีกำหนดที่จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย และจากนั้นจะไปเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกที่เกาะบาหลี.

ขอขอบคุณที่มา : ไทยโพสต์