โสมแดงถอน “ขีปนาวุธ” จากฐานยิง บ่งบอกความตึงเครียดเริ่มผ่อนคลาย

    เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกออกจากฐานยิงทางภาคตะวันออกของประเทศแล้ว ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า สถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีน่าจะเริ่มผ่อนคลายลงหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผยเมื่อวันจันทร์(6)
       
       เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ให้สัมภาษณ์ว่า ขีปนาวุธมูซูดันซึ่งอยู่ในสถานะพร้อมยิง “ถูกเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว” ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันอีก 2 รายก็เอ่ยตรงกันว่า การเคลื่อนย้ายขีปนาวุธออกจากฐานยิงครั้งนี้หมายความว่า เปียงยางไม่มีแผนที่จะใช้อาวุธโจมตีเพื่อนบ้านอีกต่อไป และต้องใช้เวลาเตรียมการอีกระยะหนึ่ง จึงจะสามารถนำขีปนาวุธกลับมาสู่สถานะพร้อมยิงอีกครั้ง
       
       ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือซึ่งออกถ้อยแถลงข่มขู่โจมตีสหรัฐฯและเกาหลีใต้แทบไม่เว้นวัน ได้นำขีปนาวุธมูซูดัน 2 ลูกไปไว้ที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้สหรัฐฯ, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ต้องเตรียมมาตรการป้องกันการโจมตีของโสมแดงในช่วงวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นว้นคล้ายวันเกิดของอดีตประธานาธิบดี คิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
       
       ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างนำขีปนาวุธสกัดกั้นมาประจำตามจุดยุทธศาสตร์ใกล้เมืองหลวง เพื่อรับมือภัยคุกคามจากจรวดโสมแดง ขณะที่สหรัฐฯก็ส่งเรือพิฆาตติดเรดาร์และขีปนาวุธสกัดกั้น 2 ลำ ออกลาดตระเวนใกล้น่านน้ำเกาหลีเหนือ
       
       ผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯ ยืนยันกับสภาคองเกรสว่า กองกำลังสหรัฐฯพร้อมจะยิงทำลายขีปนาวุธทุกลูกที่เสี่ยงจะเป็นภัยต่อชาติพันธมิตร หรือฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะกวม
       
       อย่างไรก็ดี เกาหลีเหนือยังไม่เคยยิงขีปนาวุธตามที่ขู่ไว้ และยอมผ่อนคลายท่าทีแข็งกร้าวลงในช่วงไม่กี่วันมานี้
       
       จอร์จ ลิตเติล โฆษกเพนตากอน แถลงต่อสื่อมวลชนสหรัฐฯ เมื่อวานนี้(6)ว่า การที่เกาหลีเหนือหยุดใช้ถ้อยคำคุกคามและ “งดยั่วยุ” ถือเป็นพัฒนาการที่ดี
       
       แหล่งข่าวทางทหาร ระบุว่า ขีปนาวุธมูซูดันของเกาหลีเหนือมีพิสัยยิงไกลระหว่าง 640-5,630 กิโลเมตร ขณะที่นักวิเคราะห์ยังเห็นต่างเกี่ยวกับศักยภาพของอาวุธชนิดนี้ และเชื่อว่าเปียงยางยังไม่เคยทดลองยิงมาก่อน
       
       ข้อมูลจากเพนตากอน ระบุว่า เกาหลีเหนือมีขีปนาวุธพิสัยใกล้และกลางอยู่หลายร้อยลูก ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้

ขอขอบคุณที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์