มะนิลา-มะกันซ้อมรบใกล้จุดร้อน ญี่ปุ่นเสนอช่วยปินส์ต้านทานจีน

       เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “อเมริกา”ส่งเรือพิฆาตร่วมซ้อมรบกับ“ฟิลิปปินส์” ใกล้บริเวณสันดอนที่มีกรณีพิพาทกับ“จีน”ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (27 มิ.ย.) ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกลาโหม“ญี่ปุ่น”เยือนมะนิลา เสนอความช่วยเหลือปกป้องหมู่เกาะ “ห่างไกล” ของแดนตากาล็อก พร้อมปรับทุกข์กันเรื่องที่พญามังกรยืนกรานแข็งกร้าวอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก
       
       อาบิเกล วอลต์ รองโฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงว่าเป้าหมายในการร่วมซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯกับฟิลิปปินส์ครั้งนี้ ซึ่งกินเวลา 6 วัน คือการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองทัพของประเทศทั้งสอง และการยกระดับการตอบโต้กับการก่อการร้ายและความมั่นคงทางทะเล

       ประเทศทั้งสองจัดกิจกรรมซ้อมรบร่วมกันเป็นประจำทุกปี แต่สำหรับปีนี้พื้นที่ซึ่งใช้เพื่อการนี้จะเป็นชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะสำคัญที่สุดของฟิลิปปินส์ และอยู่ใกล้กับสันดอนสกาโบโรห์ ที่จีนยืนกรานอ้างกรรมสิทธิ์
       
       สันดอนแห่งนี้เป็นกลุ่มโขดหินและเกาะเล็กเกาะน้อยกลางทะเลจีนใต้ ที่อยู่ห่างจากเกาะลูซอน 230 กิโลเมตร และห่างจากผืนดินขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดของจีน 1,200 กิโลเมตร
       
       จีนนั้นพยายามใช้หลักฐานความเป็นมาทางประวัติศาสตร์เป็นหลักฐานสำคัญ ในการอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ แม้กระทั่งบริเวณที่อยู่ใกล้ชายฝั่งของประเทศเพื่อนบ้านซึ่งได้ประกาศใช้สิทธิครอบครองตามหลักเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของกฎหมายทะเลของสหประชาชาติ
       
       โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีหลังๆ มานี้ พญามังกรดำเนินการอย่างก้าวร้าวมากขึ้นทั้งในทางการเมืองและการทหาร ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดกับชาติที่อ้างสิทธิ์รายอื่นๆ ทั้งนี้ จีนกับไต้หวันเป็นรายที่อ้างอธิปไตยเป็นอาณาบริเวณกว้างขวาง ขณะที่ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ไต้หวัน และเวียดนาม ต่างอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่เพียงบางส่วน

       มะนิลาร้องโวยวายว่า จีนเข้ายึดครองสันดอนสการ์โบโรห์ที่อุดมด้วยสัตว์น้ำมากว่าปี ส่งผลให้ชาวประมงฟิลิปปินส์ไม่สามารถเข้าไปจับปลาได้อย่างที่เคยทำมาหลายชั่วอายุคน
       
       นอกจากนั้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เรือของทางการจีนยังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแล่นรอบๆ บริเวณสันดอนเซกคันด์ โธมัส ในทะเลจีนใต้ ที่ฟิลิปปินส์ครอบครองอยู่อีกด้วย
       
       นาวาตรีเกรเกอรี ฟาบิก โฆษกกองทัพเรือฟิลิปปินส์ แถลงเพิ่มเติมว่า บริเวณที่แดนตากาล็อกกับแดนอินทรีจะทำการซ้อมรบกันในคราวนี้ อยู่ในเส้นทางคมนาคมทางทะเลภายในดินแดนของฟิลิปปินส์ โดยอยู่ห่างจากสันดอนสการ์โบโรห์ไปทางด้านตะวันออก 108 กิโลเมตร เขาย้ำด้วยว่า การซ้อมรบนี้ไม่ได้ต้องการยั่วยุจีนแต่อย่างใด
       
       ตามคำแถลงของกองทัพฟิลิปปินส์ การซ้อมรบร่วมที่มีชื่อรหัสว่า “กะรัต” จะมีเรือ 3 ลำจากกองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นต้นว่า ยูเอสเอส ฟิตซ์เจอรัลด์ ซึ่งเป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี เข้าร่วมด้วย ขณะที่กำลังพลจะมีทั้งสิ้น 1,000 คน เป็นทหารของแต่ละฝ่ายอย่างละครึ่ง

       ฟาบิกเสริมว่า หนึ่งในปฏิบัติการสำคัญของการฝึกซ้อมคราวนี้ คือการจำลองการสกัดเรือของข้าศึก ยึดเรือและสัมภาระที่อาจเป็นอันตรายต่อพันธมิตร รวมทั้งจำลองภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย การรับมือภัยพิบัติ และการยกระดับความสามารถในการใช้ปืนใหญ่บนเรือ
       
       ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงมะนิลา ได้ออกคำแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี เรียกร้องให้ฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ทำการซ้อมรบโดยคำนึงถึงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ไม่ใช่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
       
       ในวันเดียวกันนี้เอง รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น อิสึโนริ โอโนเดระ ซึ่งเดินทางมาเยือนมะนิลา ได้เสนอให้ความช่วยเหลือแก่ฟิลิปปินส์ ในการพิทักษ์ปกป้องหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกล รวมทั้งหารือเรื่องที่จีนอ้างสิทธิ์ในน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก
       
       โอโนเดระเสริมว่า ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์เผชิญสถานการณ์เดียวกัน และโตเกียวกังวลมากว่า สถานการณ์ในทะเลจีนใต้อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในทะเลจีนตะวันออก

       ทั้งนี้ จีนกับญี่ปุ่นก็กำลังขัดแย้งกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งญี่ปุ่นเป็นฝ่ายครอบครองอยู่ โดยที่โตเกียวเรียกขานหมู่เกาะนี้ว่า เซงกากุ ขณะที่ปักกิ่งเรียกชื่อว่าเตี้ยวอี๋ว์
       
       ด้านรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ วอลแตร์ กัซมิน แสดงความยินดีต่อข้อเสนอของญี่ปุ่น และตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างกัน
       
       แม้ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดระบุชัดเจน ทว่า อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศตากาล็อกเคยเปิดเผยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ฟิลิปปินส์คาดหวังว่าจะได้รับเรือตรวจการณ์ใหม่ๆ จากญี่ปุ่น 10 ลำภายในระยะเวลา 18 เดือน
       
       ในวันพฤหัสบดี โอโนเดระและกัซมินยังแสดงความยินดีที่สหรัฐฯ พันธมิตรสำคัญของทั้งสองประเทศ ขยายปฏิบัติการทางทหารในเอเชียมากขึ้น กระนั้น รัฐมนตรีกลาโหมแดนอาทิตย์อุทัยย้ำว่า โตเกียวต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับจีน รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลัง

ขอขอบคุณที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์