ผวาจีน-ญี่ปุ่นบุกอาเซียนจี้ไทยเร่งปรับตัว

     หอการค้าไทย หวั่นจีน-ญี่ปุ่นเร่งขยายธุรกิจในอาเซียน จี้ภาครัฐ-เอกชนเร่งปรับตัว สร้างฐานโลจิสติกส์รับเปิดเสรีหวังชิงส่วนแบ่ง

     นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน กล่าวในการสัมมนา "กระทบไหล่ทูตพาณิชย์ ชี้ช่องSMEsบุกตลาดอาเซียน" จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 9 แสนล้านบาท เป็นสัดส่วนการค้ากับพม่าสูงที่สุดคือ 45%รองลงมาคือกัมพูชา 27.9% มาเลเซีย 5.9%และลาว1.02% แต่ในทางปฎิบัติจริงมูลค่าการค้าของไทยควรจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสถิติข้างต้น

     สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากประเทศอย่าง พม่า ลาวและกัมพูชา มีการค้ากับจีนเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลที่มีพรมแดนใกล้เคียงกันและความใกล้ชิดด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในอดีต นอกจากนี้ พบว่าญี่ปุ่นแสดงความสนใจการสร้างฐานการค้าในอาเซียนเพื่อปูทางขยายโอกาสทางธุรกิจต่อไป

     ทั้งนี้ ไทยต้องเร่งสร้างโอกาสทางการค้าของไทยในอาเซียนโดยเฉพาะประเทศที่มีชายแดนติดไทยผ่านการเพิ่มด่านชายแดนซึ่งอาจเป็นรูปแบบให้เอกชนมาดำเนินการลักษณะใช้เป็นที่พักสินค้าจากนั้นให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบก่อนปล่อยให้ขนส่งต่อไป ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาด่านชายแดนแออัดจนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การค้าชายแดนไม่ขยายตัวได้เท่าที่ควร

     นายนิยม กล่าวอีกว่า การค้าชายแดนต้องใช้เงินสกุลท้องถิ่น แต่ติดปัญหาไทยไม่ยอมรับเงินสกุลต่างชาติ เข่น เงินจาคของพม่านำเข้ามาไทยไม่ไดทั้งที่ในทางปฎิบัติมีการใช้เงินจาคค้าขายกันอยู่แล้ว ล่าสุดได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อผ่อนปรน

ขอขอบคุณที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์