พาณิชย์ เปิดคลังรู้ลึกรู้จริงสานอนาคตเศรษฐกิจไทยในประชาคมอาเซียน

มิกซ์แอนด์แมทซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์
เผยความกระจ่าง-สร้างความเข้มแข็งให้กับคนไทยก้าวสู่ประชาคมอาเซียน โดยเนรมิตพื้นที่ ณ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะตลอด 10 วัน (28 ต.ค. - 6 พ.ย. 56) รวมคัมภีร์และกลยุทธ์บุกตลาดธุรกิจอาเซียน 10 ประเทศผ่านนิทรรศการ และเวทีสัมมนาบอกเคล็ดลับ การเพิ่มทักษะการค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความเป็นเป็นเศรษฐีไทยในระดับอาเซียน โดยดูตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในอนาคตจาก 12 กลุ่มธุรกิจศักยภาพ ในงาน “อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน” ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว. กระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยแขกคนสำคัญระดับประเทศ และทูตจากนานาประเทศ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

 
นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเปิดงานว่า เศรษฐกิจโลกในช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา และต่อไปในอนาคต จะเปลี่ยนแปลง และส่งผลต่อประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น มีทั้งโอกาสและความท้าทาย ซึ่งเราคนไทยจะต้องสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมพลังร่วมกันอย่างแข็งขัน เพื่อขยายโอกาสการทำธุรกิจการค้าให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป โดยเฉพาะการใช้กลไก การเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ซึ่งรัฐบาล และภาคเอกชน ได้ผนึกกำลังร่วมกันเตรียมพร้อม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้คนไทยกินดีอยู่ดีมีความเสมอภาค และเป็นธรรมตลอดไป โดย นายกรัฐมนตรีจะเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม เชื่อมโยงการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ASEANพร้อมไปกับสนับสนุนธุรกิจไทยรวมทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ในแต่ละท้องถิ่น โดยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทั้งสินค้า และบริการ รวมทั้ง OTOP ให้มีมูลค่าเพิ่ม เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรม สำหรับอนาคตของธุรกิจไทย และที่สำคัญคือ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในบรรยากาศการค้าการลงทุนไทยโดย พัฒนาโครงสร้างการศึกษาสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยในอนาคต และปรับกระบวนทัศน์ระบบราชการให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคตที่จะก้าวหน้าไปในหลายๆ มิติ

ขณะนี้ คนไทยต้องปรับแนวคิดว่า 10 ประเทศอาเซียนคือครอบครัวเรา แม้ยังมีถึง 31 ธันวาคม 2558 ด้วยเหตุที่ว่าการรวมกลุ่มของอาเซียนไม่ได้สิ้นสุดที่ วันนั้น แต่ ASEAN ทุกประเทศ จะต้องร่วมมือกันในทุกๆ ด้าน ให้มีความใกล้ชิดและเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้น เพื่อขยายโอกาสการค้าและการแข่งขันร่วมกัน เพื่อก้าวสู่เขตการค้าเสรี กับอีกหลายตลาดที่มีศักยภาพ และสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจไทยต่อไป เช่น จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ภายใต้กรอบ FTA-ASEAN + 6 และอื่นๆ เช่น สภาพยุโรป รวม 28 ประเทศ และ Trans Pacific Partnership หรือ TPP ที่ครอบคลุมตลาดในทวีปอเมริกา ทำให้อาเซียนเป็นแหล่งดึงดูดการทำการค้าและการลงทุนที่น่าสนใจยิ่ง เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่สัมผัสได้ จึง“ขอเชิญชวนประชาชนทั้งชาวไทย และต่างชาติ ทุกท่านได้มาเยี่ยมชมนิทรรศการ อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน ที่รัฐบาลตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการบอกกล่าวให้คนไทยทุกคนได้รู้ว่า เราจะได้อะไรจากประชาคมอาเซียน เพื่อให้คนไทยได้ก้าวไปสู่อนาคตแห่งโอกาสที่เปิดกว้างพร้อมกันอย่างถ้วนหน้า”

ส่วน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานสัมมนาและนิทรรศการ ว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และการเข้าถึงข้อมูลของสาธารณชน (เข้าใจง่ายได้ประโยชน์ อย่างทั่วถึง ) เกี่ยวกับการรวมตัวไปสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งมี 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. เสาประชาคมการเมืองและความมั่นคง 2. เสาประชาคมสังคมและวัฒนธรรม และ 3. เสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยจะเน้นเสาเศรษฐกิจ (AEC) เป็นหลัก เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อปากท้องคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เกษตรกร ประชาชนทั่วไป นักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้นำประโยชน์จาก AEC ไปใช้ในการต่อยอดการทำมาหากิน รวมทั้งข้าราชการเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างสอดคล้อง

สำหรับหัวข้อหลัก (Theme) ของนิทรรศการ “อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน” คือ

1. “คนไทยได้อะไรจากประชาคมอาเซียน” โดยเน้นเรื่องหลัก คือ ภาพรวมประชาคมอาเซียน ทั้ง 3 เสา

2. มีนิทรรศการอุตสาหกรรมและธุรกิจศักยภาพหลักของไทย (Cluster) นำเสนอความโดดเด่น และวิสัยทัศน์ของ

โอกาสอนาคตธุรกิจไทย มี 12 กลุ่ม ได้แก่ เกษตร อาหาร การต่อเรือ ยานยนต์ ก่อสร้าง ยางพารา ท่องเที่ยวสิ่งพิมพ์/บรรจุภัณฑ์ แฟชั่น สุขภาพ Logisitics พลังงานทางเลือก

3. การสัมมนา 29 หัวข้อ เกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการค้าการลงทุนโดยทูตพาณิชย์ และนักธุรกิจไทยไปลงทุนใน ASEAN

4. คูหาอาเซียน (ASEAN Pavilion) ของสถานทูตประจำประเทศไทย แสดงความโดดเด่นและศักยภาพของแต่ละประเทศ

5. คลินิกให้คำปรึกษา โดยมี 4 ด้านหลัก ได้แก่ การวางแผนการทำธุรกิจ กฎหมาย-ภาษี-บัญชี การเงิน และการตลาด

6. งานแสดงสินค้า The Best of Thailand มี 40 คูหา เป็น OTOP Premium + ชิ้นงานของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพ

ระหว่างประเทศ (SACICT) และ การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด
7. กิจกรรมให้ความรู้และความบันเทิง อาทิ การตอบคำถาม ชิงรางวัล I-Pad mini ทุกวัน เป็นต้น

งานสัมมนาและนิทรรศการ “อนาคต เศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน” จะมีการจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายนศกนี้ ณ บริเวณ โถงชั้น 2 ภายในอาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 09.00 — 18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อที่สนใจ (หัวข้อสัมมนาตามเอกสารแนบ) ได้ที่ www.moc.go.th และ www.thaiaec2013.com

ทั้งนี้ ผู้จัดงานได้จัดให้มีบริการรถรับ-ส่ง บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต / MRT จตุจักร วันละ 2 รอบ เวลา 10.00 น. และเวลา 14.00 น. ทุกวัน ตลอดการจัดงาน รวมทั้งผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานเป็นหมู่คณะ (ไม่ต่ำกว่า 10 คน) สามารถติดต่อเพื่อให้จัดรถรับส่งได้ที่ คุณพิชชารัตน์ พิมลธนะวัฒน์ โทร 02 639 4580-2 ต่อ 102, 082 388 0996 โทรสาร 02 639 1569