กระทรวงเกษตรฯ เปิดเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมนำสินค้าเกษตรไทยสู่ประชาคมอาเซียน
-กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง โอกาสสินค้าเกษตรไทยสู่ประชาคมอาเซียน โดยมีนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนภาครัฐและสถาบันการศึกษา ผู้แทนภาคเอกชนและผู้แทนเกษตรกร ทั้งสิ้นรวม 670 คน ซึ่งการสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2556 ณ โรงแรมรามา การ์เดนส์
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนรวม 10 ประเทศ กำลังจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ทำให้เกิดการรวมตัวทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้เป็นไปในระดับที่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เสาหลักของประชาคมอาเซียนที่สำคัญ คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งเป็นการเปิดเสรีด้านการค้า บริการ การลงทุน รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรี ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสอันสำคัญของภาคการเกษตรไทยที่จะมีตลาดรองรับที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งหากภาคการเกษตรมีการเตรียมความพร้อมอย่างดี จะเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้และมีชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการเปิดเสรีดังกล่าว ประเทศไทยขาดการวางแผนหรือหาแนวทางรับมือกับผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น ภาคการเกษตรไทยย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเกษตรกรไทยอาจสูญเสียความมั่นคงในอาชีพ รวมถึงศักยภาพการแข่งขันของภาคเกษตรไทยอาจลดลง
นายชวลิต กล่าวว่า การสร้างความรู้และความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ AEC จึงนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รู้เท่าทันต่อสถานการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องศึกษาสถานการณ์การผลิต การตลาด และวิเคราะห์ศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในกลุ่มสินค้าพืช สินค้าปศุสัตว์และสินค้าประมง เพื่อให้ภาครัฐสามารถกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงานและกิจกรรมต่างๆ ตามแนวทางที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เหล่านี้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการได้ทราบอย่างทั่วถึง
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมุ่งเน้นการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและดำเนินการตาม พันธกิจ เพื่อนำพาภาคการเกษตรของประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยยึดเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรเป็นศูนย์กลางการทำงาน ซึ่งแนวคิดการพัฒนาไม่ได้มุ่นเน้นเฉพาะความเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่เพียงอย่างเดียว แต่ได้คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้บริโภค เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงให้กับภาคเกษตรของประเทศด้วย" นายชวลิต กล่าว
การสัมมนาเพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสสินค้าเกษตรไทยสู่ประชาคมอาเซียนที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ภาคเอกชน นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบข้อมูลและสามารถเสนอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ไปใช้ประกอบการวางแผนเพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายด้านการเกษตรที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องต่อไป