volvo group เปิดสาขานครราชสีมา ประตูสู่อีสาน
กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--วอลโว่ กรุ๊ป
วอลโว่ กรุ๊ป เปิดโชว์รูมนครราชสีมา ประตูสู่ภาคอีสาน
- ศูนย์บริการและโชว์รูม รองรับทั้งภาคอีสาน
- รองรับเศรษฐกิจอีสานคึกคักและการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่และยูดีทรัคส์ แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยล่าสุด เปิดสาขานครราชสีมา เพื่อรองรับการจัดหน่ายและให้บริการแก่ตลาดภาคอีสาน
มร. ฌาร์ค มิเชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าสาขานครราชสีมา ถือเป็นประตู่สู่จังหวัดภาคอีสานและมีความสำคัญต่อการจัดจำหน่ายและการให้บริการแก่ผู้ประกอบการในภาคอีสานอย่างมาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เหมาะที่จะกำหนดให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเปิดประตูสู่ภาคอีสาน
“จังหวัดนครราชสีมาหรือโคราชนี้ ถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่อการขยายงานของวอลโว่ กรุ๊ป สู่จังหวัดภาคอีสานทั้งหมด และที่สำคัญ ขณะนี้เศรษฐกิจของโคราชนี้ ถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้เพราะผู้ประกอบการต่างเล็งเห็นความสำคัญของจังหวัดนครราชสีมาในการรองรับการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งนักธุรกิจและประชาชนในนครราชสีมาต่างตื่นตัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต” มร.มิเชล กล่าว
มร.มิเชล กล่าวว่าภายใต้แผนการขยายงาของวอลโว่ กรุ๊ป บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณไว้สูงถึง 3,000 ล้านบาทในการสร้างสาขาเพิ่มเติม 10 แห่งและขยายปรับปรุงสาขาปัจจุบันจำนวน 5 แห่ง ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้มีสาขาที่ให้บริการ 10 แห่ง และวอลโว่ กรุ๊ป จะเร่งเปิดให้ครบตามแผนงานทั้งสิ้น 15 แห่งภายในสิ้นปีนี้
ทางด้านนายศักดิ์สิทธิ์ พรหมรัง ผู้จัดการทั่วไป วอลโว่ กรุ๊ป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวเพิ่มเติมว่าศูนย์บริการสาขานครราชสีมาแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 8 ไร่ มีพื้นที่ให้บริการทั้งสิ้น 1,253 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งแบรนด์วอลโว่ และแบรนด์ยูดี โดยมีช่องให้บริการตามแบบมาตราฐานของวอลโว่ สามารถรองรับการให้บริการได้ 10 คันต่อวัน
“ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าสาขานครราชสีมานี้ จะเป็นสาขาที่สามารถให้บริการได้ทั้งรถที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทั้งนี้เพราะโคราช ถือเป็นประตู่สู่ภาคอีสานที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสารจะต้องผ่าน เราจึงเชื่อมั่นว่าสาขาแห่งนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการ” นายศักดิ์สิทธิ์กล่าว
ทางด้าน มร. มิเชล กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดจำหน่ายรถบรรทุกหนักของวอลโว่ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ วอลโว่ กรุ๊ป สามารถจำหน่ายวอลโว่ 619 คัน ยูดี ทรัคส์ 344 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน 5% โดยวอลโว่ กรุ๊ป มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 4%
“สาเหตุที่ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ผมอยากจะบอกว่าเป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เล็งเห็นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการในอนาคตของรัฐบาลที่มีแผนจะสร้างปัจจัยพื้นฐานของประเทศ แน่นอนครับ โครงการเหล่านี้ ย่อมมีส่วนสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย” มร.มิเชล กล่าว