'ปู'ยิ้มแฉ่ง!ลุยจีนเปิดเอ็กซ์โปดัน 2ล้านล.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
วันนี้ 3 ก.ย.56 เมื่อเวลา 9.30 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนเอ็กซ์โปครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นที่นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายกฯ กล่าวว่ารู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมงานครบรอบ 10 ปีการจัดงานจีน-อาเซียนเอ็กซ์โป ที่นครหนานหนิง เพราะเป็นสัญลักษณ์ในการเติบโตควระหว่างจีนและอาเซียน โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างเอกชน ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าการค้าขายในงานอาเซียน-จีนเอ็กซ์โปในปี 2555 ที่ผ่านมา มีมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์และคาดว่าปีนี้มูลค่าการจะเติบโตมากขึ้น โดยในงานนี้มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมหลายร้อยราย ทำให้ไทยเป็น 1 ในประเทศอาเซียนที่มีผู้ประกอบการเข้ามาร่วมงานมากที่สุด ความสำเร็จของการจัดงานนี้มาจากวิสัยทัศน์ของอาเซียนและจีนที่มุ่งหน้าแสวงหาความสำเร็จร่วมกัน ซึ่งนำมาสู่การจัดทำการเปิดเสรีการค้าระหว่างกันหรือ FTA ASEAN-CHINA และทำให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียนตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา จีนและอาเซียนยังสามารถที่จะขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนให้มากขึ้นกว่านี้ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยอยากเห็นการเพิ่มการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงขยายจำนวนรายการสินค้าที่เปิดเสรีระหว่างกันให้หลากหลายมากขึ้น และลดกำแพงที่ไม่ใช่ภาษีลง
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ย้ำว่า การเชื่อมโยงระหว่างจีนและอาเซียน หรือ Connectivity มีความสำคัญมาก เพื่อทำให้การค้า การไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนกับประชาชนสะดวกมากขึ้น ดังนั้นประเทศต่างจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง กฎระเบียบต่างๆ ให้เอื้อต่อการเคลื่อนย้ายของสินค้าและประชากรระหว่างกันได้ง่ายขึ้น เช่นการเชื่อมเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วงกับประเทศในอาเซียน ทั้งนี้ไทยเตรียมลงทุนครั้งใหญ่มูลค่า 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงภายในปี 2020 ที่สามารถเชื่อมผ่าน สปป.ลาว ไปยังประเทศจีนได้ จึงอยากให้ทั้งสามประเทศคือจีน ลาว และไทย หารือกันอย่างเร่งด่วนในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของจีนและอาเซียนนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและจีน ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ดังนั้นไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนจีนจะทำงานอย่างเต็มที่ในการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันมีความแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ระหว่างกันของทั้งอาเซียนและจีน