อุตสาหกรรมแฟชั่นปรับตัวสร้างแบรนด์ รับเวทีอาเซียน
สัมภาษณ์พิเศษ ...ประเด็นอุตสากรรมแฟชั่นไทยก้าวสู่อาเซียน
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย มูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาท ที่ประกอบได้วยภาคอุตสาหกรรมมผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งเครื่องหนัง สิ่งทอ ฟอกย้อม ค้าปลีก- ค้าส่งสินค้าแฟชั่น ที่จะต้องปรับตัวครั้งใหญ่รับเวทีอาเซียนในอีก 2 ปี ข้างหน้า ผู้ประกอบการจะต้องรับมือการแข่งขันที่รุนแรง พร้อมปรับบทบาทจากผู้รับจ้างผลิตสู่การสร้างแบรนด์ของตนเองควบคู่กัน การขยับตัวภาครัฐจะเป็นอย่างไร งาน BIFF&BIL 2013 หรืองานงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง 2556หรือ Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2013 (BIFF&BIL 2013) ซึ่งเป็นงานใหญ่ในการผลักดันสินค้าแฟชั่นไทยสู่ผู้ซื้อชาวโลก จะมีแนวนโยบายใหม่ๆหรือไม่ มีบทสัมภาษณ์ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ น่าสนใจ
ส่งผลต่ออุตสาหกรรมแฟชั่น ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา งาน BIFF&BIL ได้รับการยอมรับว่าเป็นการรวมอุตสาหกรรมด้านต่างๆตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ผลิต ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ตัวแทนจัดซื้อ ดีไซน์เนอร์และผู้จัดจำหน่าย ได้มีเวทีแสดงศักยภาพ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และการเจรจาพบพันธมิตรใหม่ๆทั้งในประเทศ อาเซียน และทั่วโลก ในแต่ละปีมูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมแฟชั่น มีมูลค่าการส่งออกมากว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมแฟชั่นนั้น ถือว่าเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ใหญ่เกี่ยวโยงในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม สิ่งทอ เครื่องหนัง เครื่องนุ่งห่ม ผ้าไทย อุตสาหกรรมฟอกหนัง ค้าปลีกแฟชั่น
ปีนี้ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วม ด้วย ภาค เอกชน ที่เกี่ยวข้องใน อุตสาหกรรม แฟชั่น และ เครื่อง หนัง ไทย ร่วมจัดงานระหว่าง วัน ที่ 13-15 มีนาคม 2556 สำหรับ นัก ธุรกิจ และ วัน ที่16-17 สำหรับ ประชาชน ทั่วไป ณ ศูนย์ แสดง สินค้า และ การ ประ ชุ ม อิม แพ็ค เมืองทอง ธานี ภายใต้แนวคิดจังหวะสีสันแห่งอาเซียน
งานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง 2556หรือ Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2013 (BIFF&BIL 2013) จะจัดขึ้นภายใต้ธีม “Rhythm of ASEAN”ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ และความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนัง ในแต่ละประเทศอาเซียนซึ่งประสานสอดคล้อง เป็นจังหวะเดียวกัน พร้อมที่จะก้าวไปด้วยกันเพื่อรับกับ การรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community)
เอกชนภาครัฐ ผนึกกำลังมุ่งเป้าเจาะสู่ประชาคมอาเซียน
งานนี้เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทย ความพร้อมสู่ความยิ่งใหญ่อลังการของงานในปีนี้ มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะความสนใจผู้เข้าร่วมงานของกลุ่มผู้ประกอบการ สถาบัน/สมาคมผู้ร่วมจัดงาน 15สถาบัน ซึ่งประกอบไปด้วย สถาบันพัฒนาสิ่งทอ,สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย,สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย,สมาคมอุตสาหกรรมทอผ้าไทย,สมาคมอุตสาหกรรมฟอก ย้อมพิมพ์และตกแต่งสิ่งทอไทย,สมาคมผู้ค้าผ้าไทย,สมาคมแฟชั่น ดีไซน์เนอร์แฟชั่นกรุงเทพ,สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ใยสังเคราะห์,สมาคมเครื่องหนังไทย,สมาคมฟอกหนังไทย,สมาคมรองเท้าไทย,สมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมรองเท้าไทย,สมาคมไหมไทย,สมาคมชาวโบ๊เบ๊,และสมาคมออกแบบสร้างสรรค์
นับถอยหลังอีก 2 ปี ต่อจากนี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคนในภูมิภาคอาเซียน หลังจากการรวมตัวของประชาชมเศรษฐกิจอาเซียน ใน 10 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดผลในแง่ทางปฏิบัติจริงจัง เต็มรูปแบบ ในปี 2558 อาเซียนจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อมหาศาลด้วยประชากรกว่า 600 ล้านคน นับเป็นโอกาสดีของกลุ่มอุตสาหกรรม เครื่องหนัง สิ่งทอ และ แฟชั่น เป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก โดยที่อุตสาหกรรมเส้นใย สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องหนังของไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในด้านศักยภาพการผลิตที่มีมาตรฐาน เทียบเท่าระดับสากล รวมทั้งคุณภาพและการออกแบบเป็นที่ยอมรับจากผู้ซื้อทั่วโลก
การพัฒนาอุตสาหกรรมดันผู้ประกอบการสู่อาเซียน
การเปิดเสรีอาเซียนผู้ประกอบการ การแข่งขันจะสูงขึ้น ผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นจะต้องปรับตัวยกรับความสามารถจากเดิมที่รับจ้างผลิต (OEM) เพื่อการส่งออกเป็นหลักไปสู่ การเป็นผู้ผลิตที่มีการออกแบบสินค้า (ODM) และเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีแบรนด์เป็นของตนเอง (OBM) เพื่อการสร้างเสริมมูลค่าการแข่งขัน สร้างความได้เปรียบ และเป็นการดำเนินธุรกิจที่หยั่งยืน มั่นคง
การแข่งขันภายในและภายนอกประเทศ จึงไม่ได้อยู่บนเงื่อนไขเดิมๆ ที่เน้นราคาถูกอีกต่อไป อุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องหนังและเครื่องประดับของไทย จึงต่อหาทางออกด้วยการสร้างความสามารถในการแข่งขันในหลายมิติ โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์การเป็นผู้นำแฟชั่นในภูมิภาค การนำเสนอสินค้าที่มีความเป็นตัวเอง เตรียมสินค้าที่เหมาะกับตลาดที่ต่างกัน การวิเคราะห์ความต้องการของบายเออร์แต่ละประเทศ การสร้างภาพลักษณ์ประกอบการขายที่ถูกนำเสนออย่างดี และสอดรับกลุ่มเป้าหมาย
งาน BIFF&BIL 2013 เป็นงานที่ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องหนังและแฟชั่นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางสำคัญในการพบปะระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ช่องทางพัฒนาสินค้า และการสร้างเสริมศักยภาพนักออกแบบสร้างสรรค์งานสู่อินเตอร์ การจัดงานครั้งนี้ได้จัดโครงการพิเศษการเตรียมการสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ผู้เข้าร่วมงาน BIFF &BIL2013 มีการจัด (Workshop)ให้ผู้ประกอบการ จึงเป็นโครงการที่ช่วยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานและมุ่งบุกตลาดอาเซียนโดยโครงการจะมีทีมผู้ให้คำปรึกษาตลอดรายการ มีการทำโครงการ WorkshopProject ที่นำดีไซเนอร์เข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับแบรนด์ต่างๆ ทำให้พวกเขาค้นพบความสามารถของตัวเองซึ่งแต่ละแบรนด์เองได้มีผลงานแสดงเดินแบบแฟชั่นโชว์การจัดทำ Look Book ส่งผลให้ได้รับPre-order หลังจากนั้นเป็นการเริ่มต้นบนแนวทางที่ถูกต้อง
งาน BIFF&BIL 2013 ปีนี้มีอะไรโดดเด่น
การจัดงาน ในปี2013 จะน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในและต่างประเทศกว่า 700 ราย ที่นำสินค้าและบริการมาร่วมแสดงกว่า 1,100 คูหาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั้งของผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง ปี 2556 จะแบ่งพื้นที่โซนแสดงสินค้าให้สะดวกง่ายดายต่อการชมงาน และแยกหมวดหมู่ตามความต้องการเฉพาะของผู้เข้าชมงานแต่ละกลุ่ม ด้วยแนวคิด “Fair-in-Fair”ประกอบด้วยโซนแสดงสินค้าสิ่งทอ (Textile) ,เครื่องนุ่งห่ม (Garment),เครื่องหนัง (Leather Goods),รองเท้า (Footwear),เครื่องประดับแฟชั่น(Fashion Accessories),ดีไซเนอร์ (Designer)
สินค้าที่จัดแสดง สินค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ (Brand Preference),สินค้าจากกลุ่มผู้ผลิต OEM/ODM (OEM/ODM), สินค้าแฟชั่นสำหรับผู้ค้าปลีก (Pick and Pay), วัตถุดิบและฟอกย้อม (Material & Tannery), เครื่องประดับตกแต่งเสื้อผ้า(Clothing Accessories), สินค้าโอทอป/สินค้าเอกลักษณ์ไทย(OTOP/Thai Exotic),งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง (BangkokInternational Fashion Fair & BangkokInternational Leather Fair) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “BIFF&BIL” เป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังชั้นนำของอาเซียน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าแฟชั่นของไทยสู่สายตาชาวโลก
ชูDesignerHall ผลักดันงานออกแบบสู่เวทีโลก
ในปีนี้มีความพิเศษ มากกว่า ปี ที่ ผ่านๆ มา เพราะจะเป็นครั้งแรกที่แยก DesignerHall อย่างชัดเจน และ เป็นการรวมพลังนักออกแบบ/ดีไซเนอร์ แฟชั่นของไทย ทั้งรุ่นใหญ่ และ รุ่นใหม่ รวมถึงมี แฟชั่นดีไซเนอร์ จากต่างประเทศโดยเฉพาะ ใน เอเชีย/อาเซียน มาร่วม แสดงสินค้า แสดงแฟชั่นโชว์ และ ชมงานกิจกรรม เด่นๆที่ จะเกิดขึ้นในงาน BIFF&BIL 2013 คือ BusinessMatching กิจกรรมที่ได้ผลักดันและส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายทางธุรกิจใน อุตสาหกรรม แฟชั่น และ เครื่องหนัง ระหว่าง ผู้ประกอบการ ไทย กับผู้เข้าร่วมงานจากต่างชาติ Fashion Show การเดินแบบแฟชั่น ใน คอลเลคชั่นล่าสุด จากแบรนด์ชั้นนำทั้งไทย และต่าง ชาติ Trend Forum เป็นการนำนวัตกรรม และ อุตสาหกรรมการผลิตใหม่ล่าสุด ทั้ง จากสิ่งทอ ผ้าผืน เครื่องหนัง และ อุตสาหกรรม รองเท้า มาให้ ข้อมูลข่าวสาร ที่ ทันสมัย และเป็น แนวโน้ม ของ เทรนด์ใน ปี ถัดๆ ไป Japan Connect กิจกรรม การผลักดัน และ ส่งเสริม ให้ เกิดการค้า ระหว่าง ไทย-ญี่ปุ่น
นอกจากนี้จะมีการสัมมนาน่าสนใจมีการสัมมนา น่าสนใจในหลายๆประเด็น อาทิ “เส้นใยประดิษฐ์เป็นมากกว่าที่คุณคิด” โดยวิทยากรจาก สมาคมอุตสาหกรรมสมาคมเส้นใย,แนวโน้มแฟชั่นและดีไซน์สินค้าเครื่องหนัง โดย Mr.Robberto Ricci ผู้เชี่ยวชาญแฟชั่นดีไซน์ และ Trend Setter จากประเทศอิตาลี, “ C2T-Colours Textures & Techniques for Leather” โดย MR.Vijay R Badami ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเครื่องหนังจากสิงค์โปร และMalaysian&Thai Footwear : First Step to Longterm Success โดย TONY TING นายกสมาคมผู้ผลิตรองเท้ามาเลเซีย
งานนี้จะยิ่งใหญ่แค่ไหนต้องติดตามดู หรือข้อมูลรายละเอียด แสดงสินค้าในงาน ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.biffandbil.com และ www.thaitradefair.com หรือติดต่อสายตรงกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 1169