นักการเมืองแห่งปี

สุรนันทน์ เวชชาชีวะ
     เมื่อวานนี้เขียนถึง "บุคคลแห่งปี" ของโลกไปแล้ว คือ Mark Zuckerberg แห่ง Facebook เลยเถิดมานั่งคิดเล่นๆ ว่า ในเมืองไทยใครจะเป็น "บุคคลแห่งปี" ได้ ซึ่งหากเอาคุณสมบัติสากลเป็นตัวตั้งว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงได้ก็ยากเอาการอยู่ เพราะประเทศไทยในช่วงปีที่ผ่านมา "ตีกัน" เป็นอาชีพ แถมไม่มีใคร "โดดเด่น" ขนาดที่เป็น "บุคคลแห่งปี"
     แต่หากลดระดับลงมาหน่อย เรียกว่าเป็น "นักการเมืองแห่งปี" ทำให้คิดได้หลายชื่อเหมือนกัน แต่หากจะบอกว่าใครที่คงอยู่เหนือความคาดหมายและการที่คงอยู่ในตำแหน่งนั้น อาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้เห็นจะต้องยกให้นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
     เพราะแต่แรกเริ่มเมื่อตั้งรัฐบาลในค่ายทหารปลายปี 2551 นั้น ไม่เคยมีใครคิดว่านายอภิสิทธิ์จะคงอยู่ในตำแหน่งได้ยาวความร้อนแรงทางการเมืองจากความขัดแย้งที่รุนแรงทำให้นายกฯถึง 2 คน คือ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ต้องหลุดจากตำแหน่งก่อนเวลาอันควร
     ถึงจะมีการ "พลิกขั้ว"แต่การรวบหัวรวบหางจับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมให้ร่วมหอลงเรือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ใช่ว่าจะเป็นที่พอใจของแต่ละคน แต่ด้วยความจำเป็นและความอยู่รอดจึงลากถูกันขึ้นมาได้ การที่นายอภิสิทธิ์ต้องลงทุนถึงกับกอดกับนายเนวิน ชิดชอบ เพื่อจะผลักดันให้ตนเป็นนายกฯ ได้ คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า ความสัมพันธ์นายอภิสิทธิ์จึงผงาดจะยาวนานถึงวันนี้ได้โดย
     ได้ด้วยการอุ้มชูเฉพาะที่มีการ "ระหองระแหง"มาตลอดและเครือข่ายฝ่ายที่สนับสนุนนาย
     ความสัมพันธ์กับฝ่ายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ไว้วางใจว่านายอภิสิทธิ์จะทำได้ การอำนาจของประเทศ
     เผชิญกับการชุมนุมของนำเสนอตัวเองว่ากลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือน
     โดดเด่นกว่าผู้อื่นเม.ย.52 ความล้มเหลวของการประชุมสุดยอดตัวเลือกอื่นไม่มีอาเซียน การถูกไล่ทุบรถที่พัทยา และที่กระทรวงมหาดไทย การสลายการชุมนุมหลังจากมีการปะทะกันหลายจุดล้วนชี้ถึงภาวะผู้นำที่ไม่สมบูรณ์
     ยิ่งเมื่อมีกรณีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ในที่สุดนายอภิสิทธิ์ต้องเล่นไพ่ที่ตนได้เปรียบคือ เวลาที่อยู่ในตำแหน่งจะมากกว่าคนอื่นที่ต้องเกษียณไป เรื่องกรณีมาบตาพุดที่ความชักช้าของรัฐบาลทำให้นักลงทุน"หงุดหงิด"แถมด้วยความขัดแย้งกับรัฐบาลกัมพูชา และนายกฯ สมเด็จฮุน เซน ที่ตั้งอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา เล่นเอารัฐบาลไทยต้องใช้ไม้แข็ง แต่ก็ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงนโยบายต่างประเทศที่มีหนึ่งเดียว คือ การตามล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า นั่นเป็นประโยชน์ต่อชาติแล้วหรือที่จะสละทุกอย่าง ยอมแลกยอมเปลี่ยน ยอมเสียเพื่อนบ้านเพื่อเป้าหมายเดียว
     แต่นายอภิสิทธิ์ก็"รอด" มาได้!!
     ปีนี้เปิดฉากด้วยการประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ในค่ายทหาร ประกาศภาวะฉุกเฉิน และใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม ทั้งที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 และบริเวณรอบสี่แยกราชประสงค์ ช่วงวันที่ 10-19 พ.ค.53 จนมีผู้เสียชีวิต 91 คน และบาดเจ็บอีกนับพัน ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนว่ารัฐบาลที่ใช้กำลังปะทะกับประชาชนจนล้มตายกลางเมืองมากขนาดนี้จะคงอยู่ในอำนาจได้
     แต่นายอภิสิทธิ์ก็"อยู่" มาได้!!ทั้งเมื่อประเมินสถานการณ์วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์หลุดจากคดี "ยุบพรรค" นายอภิสิทธิ์เสมือน"พยัคฆ์ติดปีก"พรรคร่วมรัฐบาลต้องยอม ฝ่ายค้านยังตั้งตัวไม่ได้ กลุ่มคนเสื้อแดง แกนนำถูกจับ ขาดการนำ และถูก"ตอน"ทุกขณะ นายอภิสิทธิ์จึงผงาดได้ด้วยการ "อุ้มชู" และเครือข่ายความสัมพันธ์กับฝ่ายอำนาจของประเทศ นำเสนอตัวเองว่าโดดเด่นกว่าผู้อื่น ตัวเลือกอื่นไม่มี
     แถมยังไม่มีการเลือกตั้งที่จะเปิดให้ประชาชนเลือกได้ หรือหากเลือกมาแล้ว ฝ่ายอำนาจก็ยังกลัว "ผี" พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ยอมให้พรรคเพื่อไทยหวนคืนสู่อำนาจ ต้องเก็บนายอภิสิทธิ์ไว้ใช้งานต่อ
     อย่างนี้จะไม่ให้เป็น "นักการเมืองแห่งปี" ได้อย่างไร!!
     "นายอภิสิทธิ์จึงผงาดได้ด้วยการอุ้มชูและเครือข่ายความสัมพันธ์กับฝ่ายอำนาจของประเทศนำเสนอตัวเองว่าโดดเด่นกว่าผู้อื่นตัวเลือกอื่นไม่มี"


uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ siamrath.co.th ดูทั้งหมด

490

views
Credit : siamrath.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน