ทีเส็บเปิดแผนเชิงรุกพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเตรียมพร้อมการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2 ปี สร้างหลักสูตร พร้อมเจาะ 4 ประเทศศักยภาพในการดำเนินธุรกิจไมซ์
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บเผยแผนพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์เชิงรุกเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พร้อมเปิดการอบรมหลักสูตร ASEAN MICE Operations: Now For the Next Investment Excellence หรือ“สร้างศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์ไทยสู่อาเซียน” ชูแนวทางรุกและรับของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในแต่ละกิจการ การลงทุน ตลอดจนขั้นตอน กฏระเบียบสำหรับการทำธุรกิจไมซ์ระหว่างประเทศใน 4 ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว และพม่า อันจะเป็นการเปิดธุรกิจสู่โลกของ AEC อย่างมีความพร้อมและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
พิธีเปิดอบรมหลักสูตร ASEAN MICE Operations: Now For the Next Investment Excellence หรือ “สร้างศักยภาพ ผู้ประกอบการไมซ์ไทยสู่อาเซียน” ยังได้รับเกียรติจาก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ประธานสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย และอดีตเลขาธิการอาเซียน ที่จะได้มากล่าวปาฐกถาพิเศษในเรื่อง “โอกาสของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในอาเซียน” ซึ่งนับเป็นประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจและจับตามองของภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมไมซ์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ร่วมด้วย Mr. Arif Suyoko ทูตพาณิชย์อินโดนีเซียประจำประเทศไทย และ ดร.อรรชกา ศรีบุญเรือง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมด้วย คุณลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท VNU Exhibitions Asia Pacific ที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์แก่ผู้ประกอบการไมซ์ที่เข้าร่วมงานกว่า 100 คน
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวในระหว่างการเปิดงานว่า “การรวมกลุ่มประชาคมเศรฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในอีก 2 ปีข้างหน้าถือเป็นก้าวใหม่แห่งความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้อาเซียนกลายเป็นตลาดร่วมที่มีฐานการผลิตเดียวกันมีการเคลื่อนย้ายทุน เงินทุน และแรงงานฝีมือได้อย่างเสรีในทุกอุตสาหกรรมด้วยเหตุนี้ทีเส็บจึงตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้แก่เจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการไมซ์ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจไมซ์ได้มีการเตรียมแผนงานทั้งเชิงรุกและเชิงรับเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน”
สำหรับทีเส็บได้บรรจุแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนไว้ในแผนแม่บทระยะยาวเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ระยะ 5 ปีของหน่วยงาน โดยเป็นแผนแม่บทที่มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับ 11 ระหว่าง พ.ศ. 2555-2559
“ทีเส็บทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ โดยจัดตั้งคณะทำงานร่วมของอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กรมการท่องเที่ยว กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และสมาคมโรงแรมไทย กองทุนส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ
โดยคณะทำงานดังกล่าวจะเป็นผู้กำหนดแนวนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ ต่อการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งรุกและรับตามกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอาเซียนโดยกำหนดแผนการดำเนินโครงการ 4 แนวทางหลักประกอบด้วย แนวทางแรกการจัดทำรายงานการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบเชิงลึกของอุตสาหกรรมไมซ์ตามกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอาเซียน/ แนวทางที่สอง การฝึกอบรมแก่ผู้ประกอบการไมซ์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในโอกาสและอุปสรรค ตามกรอบความร่วมมืออาเซียน/ แนวทางที่สาม จัดทำคู่มือเตรียมความพร้อมสำหรับผุ้ประกอบการไมซ์เพื่อรุก-รับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจวางแผนธุรกิจและใช้ประโยชน์จากการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และคู่มือสำหรับผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมไมซ์ โดยคัดเลือกตำแหน่งงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วนมา 2 ตำแหน่งงาน คือ ผู้ประสานงานไมซ์ (MICE Coordinator) และผู้วางแผนและปฏิบัติงาน (MICE Planning & Operations) เพื่อยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และแนวทางสุดท้าย คือการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์มีส่วนในการแสดงความคิดเห็นในการเจรจาความตกลงแห่งอาเซียน”
สำหรับการเปิดพิธีอบรมหลักสูตร“ASEAN MICE Operations: Now For the Next Investment Excellence” นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเชิงรุกภายใต้แนวทางที่สอง แต่ขยายมิติของการสร้างการเรียนรู้มุ่งสู่การสร้างประสบการณ์ทั้งในรูปแบบงานสัมมนาให้ความรู้พื้นฐาน และการจัดโรดโชว์ นำผู้ประกอบการไมซ์ไทยศึกษาลู่ทางการดำเนินธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน
“การดำเนินงานในอีก 2 ปีข้างหน้าของทีเส็บเพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการไมซ์เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นการดำเนินเชิงรุกเน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการไมซ์ขนาดกลางและขนาดย่อม โดยทีเส็บจะเป็นผู้วางรากฐานองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวทางรุกและรับของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในแต่ละประเภทกิจการ / ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศคู่ค้าหลัก ศักยภาพการลงทุนอุตสาหกรรมไมซ์ในแต่ละประเทศ กลยุทธ์การปรับองค์กรเพื่อรองรับการลงทุนในแต่ละประเทศ ตลอดจนขั้นตอนกฏระเบียบ สำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ในการลงทุนโดยระยะแรกจะเริ่มดำเนินการใน 4 ประเทศเป้าหมายตามแผนการลงทุนเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของรัฐบาลเมื่อก้าวเข้าสู่ AEC ประกอบด้วย ลาว พม่า เวียดนาม และ อินโดนีเซีย โดยผู้ประกอบการไทยจะได้มีโอกาสพัฒนาความรู้ ความเข้าใจในการวางแผนการลงทุนและสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทั้งนี้ ทีเส็บประมาณการณ์ว่าการจัดอบรมหลักสูตรดังกล่าวจะมีผู้ประกอบการไมซ์ทั้งจาก โรงแรม
ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า และผู้จัดงานแสดงสินค้าและผู้รับเหมาก่อสร้างคูหา เป็นต้น ซึ่งนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์และเป็นการเป็นการใช้ประโยชน์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายนพรัตน์กล่าวสรุป
สำหรับแผนงานเชิงรุกเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไมซ์ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ยังประกอบด้วย การผลักดันให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานหรือสมาคมของอุตสหกรรไมซ์ระดับโลก การจัดทำหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจไมซ์ รวมถึงการขยายการฝึกอบรมสู่เมืองไมซ์ซิตี้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้ประกอบการไมซ์ ด้านโอกาส อุปสรรค และผลกระทบด้านต่างๆตามกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอาเซียนโดยแบ่งเป็นรายธุรกิจซึ่งนอกจากกรุงเทพมหานครแล้วยังขยายไปยังเมืองไมซ์ซิตี้อย่างจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีจุดเชื่อมต่อกับประเทศในกลุ่ม GMS รวมทั้งจังหวัดภูเก็ตที่เชื่อมต่อกับกลุ่มประเทศทางใต้อย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น