แคนนอน ประเทศจีน เปิดตัวโครงการ “แคนนอน อิมเมจ บริดจ์” เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของเยาวชนอาเซียน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 บริษัท แคนนอน (ประเทศจีน) ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า "Image Bridge" ที่มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเยาวชนจีนในปักกิ่ง โดยมุ่งมั่นให้การสนับสนุนที่ดีกว่าแก่เด็กๆ ที่โรงเรียน HOPE และก้าวข้ามอุปสรรคทางภาษาด้วยพลังแห่งภาพ บริษัท แคนนอน (ประเทศจีน) ได้เชิญชวนให้นักเรียนจากโรงเรียน HOPE ร่วมสื่อสารกับเด็กๆ ในภูมิภาคอาเซียนจากแถบอื่นๆ ด้วยการแลกเปลี่ยนรูปภาพ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและวัฒนธรรมของตนเอง ณ ที่นี้ รูปภาพจะทำหน้าที่เป็นสะพานทอดผ่านความไม่เข้าใจ ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ได้แบ่งบันประสบการณ์และสร้างมิตรภาพร่วมกัน
รูปภาพ “Light of Hope"เป็นโครงการด้านสังคมสงเคราะห์ที่มุ่งเน้นเรื่องการสนับสนุนการศึกษา และเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ “CSR ผ่านเทคโนโลยีรูปถ่าย” ภายหลังจากที่ได้พยายามมาเป็นเวลาหลายปี แคนนอนได้นำเงินบริจาคไปใช้ในการสนับสนุนด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไปจนถึงแหล่งข้อมูลด้านการศึกษา นอกจากจะสอนให้นักเรียนบันทึกชีวิตด้วยการถ่ายรูปแล้ว แคนนอนยังส่งเสริมให้นักเรียนแบ่งปันภาพกับเด็กๆ ในต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน จากประสบการณ์ก่อนหน้านั้น เด็กๆจากประเทศอาเซียนอื่นๆ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับวัฒนธรรมและสภาพความเป็นอยู่ของเพื่อนๆชาวจีน ดังนั้น แนวทางการสื่อสารที่แคนนอนนำมาใช้ในครั้งนี้ จะเป็นขั้นตอนแรกเริ่มของโครงการ "Canon Image Bridge" วิสัยทัศน์ของแคนนอน (ประเทศจีน) คือ การสร้างสะพานมากขึ้นในอนาคตในทุกที่ทั่วโลก
ในปีนี้ แคนนอนยังคงจัดโครงการ "Canon Image Bridge" ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเยาวชนจีน เพื่อจัดชั้นเรียนถ่ายรูปและกิจกรรมแลกเปลี่ยนรูปถ่าย โดยรูปภาพที่นักเรียนจีนถ่ายจะได้รับการคัดเลือกและส่งไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียระหว่างการเรียนถ่ายภาพ ขณะที่รูปถ่ายของนักเรียนในอาเซียนก็จะถูกส่งมายังประเทศจีน และอาสาสมัครจะทำหน้าที่อธิบายถึงภูมิหลังทางวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมต่างๆ ในสังคม
นายหยาง เซียวหยู ผู้ช่วยทั่วไปและเลขาธิการของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเยาวชนจีน กล่าวว่า “ผู้คนทั่วไปดูเหมือนจะมองว่า เด็กจากโรงเรียน HOPE เป็นเด็กด้อยโอกาสและพยายาม “ให้” แต่ในทางตรงข้าม พวกเขาต้องการการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันและปล่อยให้พวกเขาได้ร่วมสร้างชุมชน ในฐานะทูต พวกเขารู้สึกมั่นใจและมีความรู้สึกรับผิดชอบอย่างแรงกล้า ซึ่งเป็นผลจากการได้รับการศึกษา ยิ่งไปกว่านั้น โครงการ HOPE คาดหวังให้บริษัทอื่นๆ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น แคนนอน เข้าร่วมมากขึ้น เพื่อช่วยเปิดมุมมองของเด็กๆ และพัฒนาความมั่นใจของตนเอง”
ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2480 แคนนอน พยายามพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับโลกออกมาอย่างสม่ำเสมอ และกลายเป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ทำธุรกิจหลากหลายพร้อมยึดมั่นปรัชญา “เคียวไซ” แคนนอน จะมุ่งเน้นที่เทคโนโลยีทางด้านสายตา โดยผลิตอุปกรณ์สำนักงาน อุปกรณ์ถ่ายภาพ อุปกรณ์ด้านระบบอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ แคนนอนรวมการดำเนินงานของสาขาต่างๆ ทั่วโลกด้วยความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันของสำนักงานใหญ่ในโตเกียวและสำนักงานใหญ่ในอเมริกา ยุโรป เอเชีย และโอเชียเนีย เมื่อปี 2539 แคนนอนเปิดตัวแผนการดำเนินงาน “Excellent Global Corporation Plan” เพื่อสร้างทัศนคติและการพัฒนาภายใต้ธีม “การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดโดยรวม” (total optimization) และ “การมุ่งเน้นกำไร” (focus on profit) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรับใช้สังคมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือของโลก ปัจจุบัน บริษัทกำลังดำเนินงานตามแผนขั้นที่ 4และมีรายรับทั้งหมด 3.9998 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2555 และมีสาขากว่า 275 แห่งทั่วโลก ประกอบด้วยพนักงาน 196,968 คน (ณ วันที่ 30 มกราคม 2556)
