[INFOQUEST] รายงานพิเศษ : กสอ.หนุนอุตฯฟอกหนังไทย พัฒนาเยาวชนไทยสู่ AEC
กรรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)เร่งผลิตและพัฒนาบุคลากรป้อนสู่ภาคอุตสาหกรรม รับมือการขาดแคลนแรงงานในอนาคตจากการเปิดการค้าเสรีอาเซียน (AEC) จึงจำเป็นที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา ควรสร้างความร่วมมือในการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมรายสาขาต่างๆทั้งนี้ กสอ. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรมาอย่างต่อเนื่องเพราบุคลากรที่มีคุณภาพย่อมเป็นรากฐานสำคัญต่อการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า นำเป็นอุตสากรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่อุตสาหกรรมฟอกหนังของไทย ซึ่งอุตสาหกรรมต้นน้ำที่นำไปสู่การแปรรูปหนังเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้หลากหลายอาทิ เครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เบาะรถยนต์ และแคปซูนบรรจุยาฯลฯ ยังคงมีปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันมีแรงงานฟอกหนังประมาณ 180 แห่ง สามารถผลิตหนังฟอกได้ประมาณ 8,000 คน ซึ่งปัญหาประการหนึ่งคือด้านขาดแคลนแรงงานมีฝีมือทั้งบุคลากร และนักออกแบบที่มีคุณภาพ ทำให้ไม่เพียงพอต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตกรมส่งออกอุตสาหกรรม (กสอ.) จึงร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย และวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการในการเร่งพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมฟอกหนัง โดย กสอ. มีบทบาทในการสนับสนุนและประสานงานระหว่างสมาคมและต่างๆในอุตสาหกรรมฟอกหนังกับสถานศ฿กษา ส่วนสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย ทำหน้าที่เป็นสถานปฎิบัติงานให้แก่นักศึกษา และรับนักศึกษาเข้าทำงานเมื่อจบการศึกษา ส่วนวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการทำหน้าที่เป็นการผลิตบุคคลาการจากสาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมฟอกหนัง โดยผู้เรียนจะได้เรียนเชิงทฎษฎีประมาณ2วัน และฝึกในโรงงาน3วัน ทั้งนี้นักศึกษาที่ผ่านการฝึกงานในโรงงานต่างๆเมื่อจบการศึกษาแล้วกรันตีได้ว่าจะมีงานรองรับอย่างแน่ โดยตั้งเป้าผลิตบุคคลกรได้ปีละไม่ต่ำกว่า50คน
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อเปิดประตูการค้า AEC คือการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ซึ่งเมื่อเข้าสู่ AEC จะก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีมากขึ้น เนื่องจากประเทศต่างๆในกลุมอาเซียนแนวการเติบโตทางเศษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบัน ประเทศคู่แข่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนำความรู้ใหม่ๆเข้ามาใช้ในกระบวนการการผลิตและออกแบบมากขึ้น แต่กลุ่มอุตสาหกรรมรายสาขาของไทย โดยเฉพาะ SMEs ส่วนใหญ่ยังขาดกการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การออกแบบ และการนำความรู้ใหม่ๆ มาใช้ส่งผลให้ขีความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นที่หน่วยงายภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา ควรสร้างความราวมในการผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม สาขาต่างๆรองรับการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ซึ่ง กสอ. ก้อได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรมาอย่างต่อเนื่อง หากบุคลากรมีความรู้ความสามารถย่อมมีโอกาสในการขยายกิจการของภาคอุตสาหกรรม เพราะบุคลากรที่มีคุณภาพไม่ว่าจะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมใด ถือเป็นรากฐานสำคัญต่อการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมไทยทั้งสิ้น
อุตสาหกรมเครื่องหนังและรองเท้า นับเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ติดอันดับท๊อปเท็นของประเทศสามารถนำรายได้เข้าประเทศปีละ 1 พันล้านเหรีญสหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมฟอกหนังของไทยซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สำคัญในการผลิตและแปรรูปหนังให้เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆตามความต้องการของตลาด และเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย และวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ จึงร่วมกันเร่งพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมฟอกหนัง โดย กสอ. จะให้การสนับสุนนด้านงบประมาน และเป็นแกนกลางในการประสานงานกับโรงงานฟอกหนังต่างๆ กับวิทยาลัยฯเพื่อพัฒนานักศักษาให้ได้รับความรู้เฉพาะทางก่อนก้าวเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาที่ใกล้จบมีสถานประกอบการรองรับเข้าทำงานทันที และที่สำคัญจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงางนได้อีกด้วย
นางปรานี คุรุเวฬุกรณ์ นานยกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมฟอกหนังเป็นอุตสาหกรรมทางเกษตร (Agro-lndustry) ประเภทหนึ่ง โดยการนำสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น โค กระบือ และจระเข้ เป็นต้น มาผลิตเพื่อก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ด้วยการนำหนังมาฟอกเพื่อให้สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมที่เกียวเนื่องอื่นๆ อาทิ เครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้สำนักงาน เบาะรถยนต์ ของเล่น เจลราติลและแคปซูนบรรจุยา เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมฟอกหนังเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สามรถเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้หลากหลาย จึงส่งผลให้ปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดแคลนบุคลากรในภาคการผลิต โดยปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมฟอกหนังประมาน 180 แห่งสามารถผลิตหนังฟอกได้ประมาณ 151,000 ต้นต่อปี มีแรงงานกว่า 8,000 คน (ที่มา:สมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย)อย่างไรก้อตามอุตสาหกรรมฟอกหนังของไทยยังคงมีความต้องการแรงงานมีฝีมือในโรงงานอีกมากทั้งบุคคลากรและนักออกแบบที่มีคุณภาพ เนื่องจากอุตสาหกรรมของไทยเริ่มมีการปรับเปลี่ยนโคลงสร้างการผลิตจากเดิมเน้นการใช้แรงงานและมีการสร้างมูลค่าเพิ่มต่ำ ไปสู่การผลิตแบบพึ่งพาเทคโนโลยีที่มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยจำเป็นต้องเร่งผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ นอกจากนี้ ปัญหาที่พบในอุตสาหกรรมฟอกหนังอีกประการหนึ่งคือมีแรงงานที่เป็นชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก อาจเกิดการขาดแคลนแรงงานขึ้นได้ เนื่องจากแรงงานต่างชาติ มีการโยกย้ายแรงงานไปประเทศอื่นๆที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่า
นายจารุพันธ์ จารโยภาส ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องเรือนกล่าวว่า “กิจกรรมในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่ทาง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดขึ้นก็เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน ด้านการฟอกหนังของไทย ที่มียอดการผลิตต่อปีสูงมากแต่ประเทศไทยเรายังขาดช่างฝีมือด้านนี้ หากมีความร่วมมือช่วยเหลือกันของทุกภาคส่วนและมีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนในอุตสาหกรรม สามารถดึงจุดเด่นของอุตสาหกรรมฟอกหนังไทยออกมาได้ จะทำให้อุตสาหกรรมฟอกหนังไทยสามารถเข้าสู่ธุรกิจ SMEs และต่อยอดเข้าสู่ตลาดAECได้ในอนาคต ไม่แพ้ประเทศอื่นแน่นอน ในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมฟอกหนังไทยในอดีตจะมีปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างโรงงานและสังคม แต่ปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ จากการเปิดกว้างความรู้ให้กับบุคคลทั่วไปให้มีความเข้าใจในขั้นตอนการผลิต เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบโรงงาน โดยปัจจุบันโรงงานได้แก้ไขปัญหาโดยการปรับปรุงโรงงานและการผลิตให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น ปรับเปลี่ยนระบบบำบัดน้ำเสีย ลดกลิ่นสารเคมี สิ่งเหล่านี้ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้มีการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ”
นายอนันต์ งามสะอาด ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ กล่าวว่า วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการเป็นหนึ่งในสถานศึกษาเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่เปิดการเรียนการสอนในสาขาที่เกียวข้องกับอุตสาหกรรมฟอกหนังโดยเปิดสาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมฟอกหนัง เพื่อการผลิตบุคคลากรที่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมฟอกหนังโดยเฉพาะ โดยสาขาดังกล่าว เปิดมาแล้ว7 ปี มีนักศึกษาสนจัยเลือกเรียนสาขานี้ประมาณปีละ 20-30 คน สำหรับความร่วมมือครั้งนี้วิทยาลัยฯ มีหน้าที่ในการผลิตนักศึกษาป้อนสู่โรงงานต่างๆ ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง และให้ความรู้ในเชิงวิชาการแก่ผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฟอกหนังโดยรูปแบบการเรียนการสอน ประกอบด้วยภาคทฤษฎี จำนวน 2 วัน และฝึกงานที่โรงฟอกหนัง 3 วัน เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้จาดทฤษฎีควบคู่ไปกับการลงมือทำงานจริง โดยหลังจากที่นักศึกษาเรียนจบโรงงานนั้นๆก้อจะรับเข้าทำงานทันที ซึ่งเป็นการการัยนตีว่านักศึกษาจะมีงานทำอย่างแน่นอน
นอกจากกิจกรรมเตรียมความพร้อมบุคคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรมฟอกหนังที่กล่าวมาแล้วในวันนี้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยังได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอีก 2 กิจกรรม ดังนี้
-กิจกรรมพัฒนาบุคลากรผู้บริหารการผลิตระดับกลางด้านอุตสาหกรรมฟอกหนัง เพื่อสร้างหัวหน้างานในภาคอุตสาหกรรมให้มีความรู้ ความเข้าใจในทักษะการบริหารงานสมัยใหม่ และบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพสามารถเปลี่ยนแนวทางจากการผลิตโดยนวัตกรรมใหม่ๆมีคุณภาพที่ดีซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันในตลาดการค้าได้ โดยมีเป้าหมายจำนวน 25 คน
-กิจกรรมพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่AEC ด้านอุตสาหกรรมเครื่องหนังเพื่อพัฒนาบุคคลากรในภาคอุตสาหกรรมให้รู้จักการใช้เทคโนโลยีในการบริหารงาน เกิดการพัฒนาบุคลากรอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และเป็นการเตรียมความพร้อมบุคลากรให้มีความรู้ความมั่นใจในการก้าวสู่AECต่อไปโดยมีเป้าหมายจำนวน 100 คน
สำหรับผู้ประกอบการ นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องเรือน และสวนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องหนัง โทรศัพท์ 02-367-8288 และ 02-367-8253 หรือเข้าไปที่ http://bisd.dip.go.th/ หรือต้องการเข้าร่วมโครงการต่างๆของกรมฯสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-202-4414-18 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th