[INFOQUEST] พัฒนาสินค้าGIด้าน“ผ้าไหม” วางมาตรฐานไทยผู้นำอาเซียน

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมหม่อนไหมได้เข้ามาดูแลระบบการจัดการด้านผ้าไหมพบว่า ระบบตลาดของสินค้าผ้าไหมมีความเฉพาะอยู่มาก ซึ่งขึ้นอยู่กับ วัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ อีกทั้งชีวิตความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ประกอบกับผ้าไหมนั้นเป็นสินค้าที่สามารถต่อยอดและพัฒนาออกไปได้หลายรูปแบบ ทั้งสินค้าจำเป็น สินค้าปกติ และสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากความต้องการของตลาดที่มีความแตกต่างกัน รวมไปถึงแฟชั่นที่เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมสินค้าให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางกรมหม่อนไหมได้มีการจัดงาน หรือ อีเว้นท์ เป็นการแนะนำส่งเสริมให้มีคนรู้จักสินค้าผ้าไหมให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าด้านผ้าไหมไปในตัว รวมไปถึงการสนับสนุนเกษตรกรที่สนใจในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับฐานการผลิตที่คาดว่าจะมีการขยายตัวในอนาคต โดยในขณะนี้มีฐานการผลิต 2 แหล่งใหญ่คือ ทางภาคอีสาน และภาคเหนือ

 
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางกรมหม่อนไหมได้มีการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ให้กับผลิตภัณฑ์ด้านผ้าไหม โดยจะทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ผ้าไหมที่ซื้อมานั้น ผลิตที่ไหน ใช้เส้นไหมชนิดใด หรือใช้ระยะเวลาเท่าใดในการผลิต ซึ่งจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือกับผลิตภัณฑ์ ส่วนด้านมาตรฐานเส้นไหมในกลุ่มอาเซียนนั้น ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำด้านคุณภาพเส้นไหม อีกทั้งยังได้รับมอบหมายให้จัดการประชุมด้านผู้นำไหมมาแล้วหลายครั้ง ตลอดจนคุณภาพของเส้นไหมที่มีความเฉพาะ มัน วาว และมีความเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ด้านผ้าไหมของประเทศไทยได้เปรียบประเทศอื่นในกลุ่มประเทศอาเซียน