อินโดนีเซีย (8-14 ม.ค. 57)

อินโดนีเซียประกาศใช้กฎหมายห้ามส่งออกแร่ดิบ

ตลาดเหมืองแร่ของอินโดนีเซียอยู่ในภาวะวิกฤต หลังรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายการห้ามส่งออกแร่ดิบ (แร่ที่ยังไม่ได้ผ่านการแปรรูป) ท่ามกลางการประท้วงของเจ้าของธุรกิจหลายคนที่เห็นว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นกฎหมายชาตินิยม และจะส่งผลเสียต่อรายได้ของพวกเขาและของประเทศโดยรวม

กฎหมายดังกล่าวระบุว่า ห้ามส่งออกสินแร่ที่ไม่ได้ผ่านการถลุงทั้งหมด และจำกัดให้ส่งออกหัวแร่ได้เป็นเวลา 3 ปี ขณะที่โลหะบางชนิดจะถูกห้ามส่งออกในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าแร่ด้วยการแปรรูปก่อนส่งออก และบังคับให้บริษัทเหมืองแร่ในอินโดนีเซียสร้างโรงงานแปรรูปแร่ในประเทศขึ้นมา

กฎหมายฉบับนี้เป็นร่างที่ได้รับอนุมัติมาหลายปีแล้ว เพียงแต่รัฐบาลได้ชะลอการบังคับใช้ออกไป เพื่อให้ธุรกิจเหมืองแร่ในประเทศได้มีการปรับตัว กระนั้น บรรดานักธุรกิจและนักเศรษฐกิจต่างแสดงความวิตกถึงผลกระทบที่จะตามมา ทั้งนี้เพราะอินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกแร่ดิบที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การห้ามการส่งออกจึงจะทำให้ต้องสูญเสียรายได้มหาศาล ขณะเดียวกันก็จะส่งผลกระทบต่อราคาแร่ดิบในตลาดโลกที่จะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางคนมองว่า รัฐบาลมองเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจในระยะยาว เมื่อแร่เหล่านั้นได้รับการแปรรูปและพร้อมจะส่งออกแล้วมากกว่า

แหล่งที่มา: telegraph.co.uk

ผู้ว่าฯ อาเจะห์อินโดฯ พบหารือกับทูตจีน

เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา นายไซนิ อับดุลเลาะห์ ผู้ว่าราชการเขตปกครองพิเศษอาเจะห์ อินโดนีเซีย ได้พบหารือกับนายหลิว เจี้ยนเชา เอกอัครราชทูตจีนประจำอินโดนีเซีย โดยนายไซนิ ได้กล่าวต้อนรับนายหลิว เจี้ยนเชาในการเยือนอาเจะห์ และขอบคุณรัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลือแก่อาเจะห์ในด้านการกู้ภัยและการพัฒนา

ส่วนนายหลิว ระบุว่า อินโดนีเซียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจีน และจีนจะสนับสนุนอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ ในด้านการสร้างความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาให้แก่ประเทศ นอกจากนี้ จีนยังยินดีจะขยายความร่วมมือกับรัฐบาลทุกระดับของอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับจังหวัดอาเจะห์ด้วย เพื่อบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาร่วมกันต่อไป

แหล่งที่มา: http://thai.cri.cn/