ฟิลิปปินส์ (8 – 22 พ.ค. 58)
ฟิลิปปินส์ประกาศรับผู้อพยพชาวโรฮิงญา
เลขาธิการแผนกปฏิบัติการสื่อสารทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า รัฐบาลจะรองรับผู้อพยพชาวโรฮิงญาทั้งจากบังคลาเทศและเมียนมาร์ซึ่งถูกปฏิเสธความช่วยเหลือจากประเทศอื่นในอาเซียน ได้จำนวนราว 3,000 คน ขณะเดียวกันก็ได้ปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลมีนโยบายจะผลักดันผู้อพยพทางเรือเหล่านี้ออกหากเข้ามาในน่านน้ำฟิลิปปินส์
การรองรับผู้อพยพชาวโรฮิงญาของฟิลิปปินส์เป็นไปตามปฏิญญาว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ลงนามไว้และมีผลผูกพันรัฐบาลฟิลิปปินส์ว่าต้องให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่ถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐานโดยไม่สมัครใจอันเนื่องมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งทางการฟิลิปปินส์จะให้ความช่วยเหลือในขั้นต้นคือการช่วยชีวิตและกลไกลให้ความช่วยเหลือระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่มีความเห็นหรือแถลงการณ์ใดๆ จากทางกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ต่อกรณีผู้อพยพชาวโรฮิงญา
แหล่งที่มา prachatai.org
คณะกรรมาธิการเฉพาะกิจของฟิลิปปินส์ใช้เวลา 12 ชั่วโมงเพื่อพิจารณาลงมติร่างกฎหมายบังซาโมโร
คณะกรรมาธิการเฉพาะกิจว่าด้วยการพิจารณาข้อเสนอร่างกฎหมายบังซาโมโรของสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ใช้เวลามากกว่า 12 ชั่วโมงในการพิจารณาเพื่อลงมติในบทบัญญัติหลักของร่างกฎหมาย
ทั้งนี้ในระหว่างการแก้ไขได้มีการถอนบทบัญญัติที่ว่าด้วยที่นั่งในสภาของเขตตามร่างกฎหมายบังซาโมโร เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรระดับชาติทำการตัดสินใจลงมติ ได้มีรายงานด้วยว่า การแก้ไขรวม 32 แห่ง (32 amendments) ได้รับความชัดเจนในการอธิบายทั้งหมด 18 มาตราตามข้อเสนอของกฎหมาย
ข้อเสนอหนึ่งที่ได้รับอนุมัติอย่างมีนัยสำคัญคือ การตัดตำแหน่งผู้นำเชิงพิธีกรรมของภูมิภาคบังซาโมโรหรือ wali ตามร่างกฎหมายบังซาโมโรที่ให้มีตำแหน่งดังกล่าว ทางด้านสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ฟื้นฟูอำนาจรัฐบาลบังซาโมโรในพื้นที่ดังกล่าว
การแก้ไขนี้ยังเรียกร้องการแต่งตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีในพื้นที่ตลอดจนการเลือกตั้งโฆษกของสภาเขตและการพิจารณาอัตราเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในพื้นที่บังซาโมโร ขณะที่คณะกรรมาธิการได้เห็นพ้องว่า รัฐบาลบังซาโมโรจะได้รับอำนาจที่จะส่งเสริมและรักษาสิทธิของผู้ที่ไม่ใช่คนพื้นเมืองโมโร
แหล่งที่มา philstar.com