โตโยต้าลาลุยญี่ปุ่น (ตอน 3)

บรรยากาศเมืองนาโกยาตอนเช้า

วันนี้ตื่นเองตอนตี 4 กว่า ก่อนจะนอนบิดขี้เกียจบิดไปบิดมา เห็นท้องฟ้าสว่างก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุด มาดูที่หน้าต่างก็เห็นเมืองนาโกยายามเช้าก็สวยงามดี แล้วก็คว้ากล้องคู่ใจมาถ่ายภาพเมืองจากมุมสูง เอาไว้ดูเป็นที่ระลึกก่อน ไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ปลุกกันตอน 6 โมงเช้า ก็ดังขึ้นมา

โตโยต้า Crown Athlete สีชีมพู

ห้องโชว์แสดงเทคโนโลยีที่วิศวกรของบริษัทโตโยต้า

ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องบริเวณล็อบบี้ ยื่นคูปองให้บริกร เค้าก็เก็บใส่แฟ้มถือแล้วเชิญให้เราเค้าไปนั่งที่โต๊ะอาหาร พอทานเสร็จก็ลุกไปเลยโดยไม่สนใจอะไร เพราะได้เวลา 7 โมงเช้า ตามเวลานัดพบ กับทางทีมงานโตโยต้าญี่ปุ่น ซึ่งจะพาไปยังศูนย์โตโยต้าดีไซน์ “Kaikan” นอกจากทีมสื่อมวลชนของไทยแล้วก็ยังมีสื่อมวลชนจากอาเซียนและทั่วโลกที่มาร่วมในงานนี้ด้วย

โมเดลรถมีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด

ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงออกจากโรงแรมที่พักก็มาถึงโตโยต้าดีไซน์ “Kaikan” หรือพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีและยานยนต์รุ่นใหม่ เจ้าหน้าที่ก็พาเดินผ่านด่านประตูหน้าก็พบ โตโยต้า Crown Athlete สีชีมพู จอดรอรับแขกที่มาเข้าชม กับหุ่นเป่าทรัมเป็ด Toyota Partner Robot อยู่กลางห้องโถง แล้วก็ปล่อยอิสระสักครู่ ก่อนที่จะเดินไปห้องทางซ้ายมือซึ่งก็เป็นส่วนจัดแสดงเทคโนโลยีที่วิศวกรของบริษัทได้ทำการวิจัยและพัฒนาขึ้น เห็นเจ้า พรีอุส ไฮบริด อันปลั๊ก โชว์ความแข็งแกร่ง พร้อมกับเทคโนโลยี หลากหลายกับการพัฒนาของรถรุ่นต่างๆ ตลอดเต็มห้อง เดินกลับมาอีกห้องทางขวามือ ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงรถรุ่นใหม่ของโตโยต้า และเลกซัส มาจัดโชว์กันอย่างเต็มที่ ก่อนเจ้าหน้าที่ของโตโยต้า จะพาต้อนขึ้นชั้นบน เข้ารับฟังการบรรยายเกี่ยวกับ โตโยต้าดีไซน์ “Kaikan” ซึ่งก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับงานออกแบบของรถโตโยต้าและรถเลกซัส ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ เมื่อบรรยายจบ ออกจากห้องมาชมในส่วนของการจัดแสดงการผลิตรถโดยใช้วัสดุรีไซเคิลมาผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอกับร้านขายของที่ระลึกของโตโยต้า ที่นำรถโตโยต้ามาจำหน่ายให้กับผู้เยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแกงกระหรี่ หมูหรือเนื้อก็บรรจุในผลิตภัณฑ์ ที่มีรถโตโยต้ารุ่นดังในอดีตมาวางจำหน่าย หรือจะเป็นโมเดลรถรุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่หลายรุ่นหลายราคาให้เลือก ซึ่งของที่วางจำหน่ายจะเกี่ยวข้องกับรถโตโยต้าทุกอย่าง

ส่วนจัดแสดงรถเลกซัส รุ่นใหม่ของโตโยต้า

มื้อกลางวันนี้ เจ้าหน้าที่โตโยต้า ก็พาเดินไปชั้นล่างเพื่อทานอาหารกลางวัน สำหรับมื้อนี้เป็นอาหารชุดที่เรียกได้ว่าคนเป็นเก๊าต้องร้องแน่ๆ เพราะเป็นไก่ทุกอย่าง ทั้งไก่ย่าง ไก่ชุบแป้งทอด แม้แต่ซุปถ้วยเล็กๆ ก็ยังเป็นซุปไก่ แต่มีมันเทศต้มมาให้ด้วย ชิมไปแล้วรู้สึกว่าหวานดีจัง พอกินกันอิ่มแล้วก็เดินเล่นพักผ่อนรอเวลาเดินทางต่อไปยังศูนย์บริการหลังการขาย ทาจิมิ เซ็นเตอร์ ก็พบกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นประถมของญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่มาทัศนศึกษา ที่โตโยต้าดีไซน์ “Kaikan” แห่งนี้ด้วย เดินดูรถ ดูการแสดงของหุ่นยนต์ พอครูสั่งปุ๊บก็มาเข้าแถว 2 แถว เดินไปเป็นขบวน ไม่เหมือนเด็กไทยเลย สั่งเข้าแถวก็เข้า แต่พอเดินกลับเดินเป็นกลุ่มไปซะ

แสดงรถโตโยต้ารุ่นใหม่ บางคันไม่มีขายในไทย

อาคารศูนย์บริการหลังการขาย ทาจิมิ เซ็นเตอร์

ออกจาก โตโยต้าดีไซน์ “Kaikan” มายังศูนย์บริการหลังการขาย ทาจิมิ เซ็นเตอร์ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็มาถึง เจ้าหน้าที่โตโยต้าก็บอกว่า ศูนย์บริการแห่งนี้เป็นศูนย์บริการแห่งใหม่ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการเลยไม่ให้ถ่ายภาพ และไม่ต้องเอากล้องลงไปจากรถ เราก็พาซื่อ ก็นั่งอยู่บนรถ จนเพื่อนถาม ทำไมไม่ลงไปล่ะ ก็ต้องบอกเค้าไม่ให้เอากล้องลง ผมชื่อก้อง ก็เลยนั่งอยู่ในรถไม่ลง จนเจ้าหน้าที่บอกว่า เค้าไม่ให้เอากล้องถ่ายภาพนิ่งหรือกล้องวีดีโอลงไป แต่คนชื่อก้องลงไปได้

หุ่นเป่าทรัมเป็ด Toyota Partner Robot กำลังแสดงโชว์

ลงจากรถเจ้าหน้าที่ก็พาไปห้องประชุม แล้วก็ไปฟังบรรยายถึงศูนย์บริการหลังการขาย ทาจิมิ เซนเตอร์ แห่งใหม่นี้ว่า เป็นศูนย์อบรมนี้จะใช้ในการอบรมฝ่ายช่างและงานบริการหลังการขาย ซึ่ง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น เลือกที่จะสร้างขึ้นในเมืองทาจิมิ เพื่อทดแทนศูนย์อบรมเดิมที่อยู่ในเมืองนิชชิน จุดมุ่งหมายของการบริการหลังการขาย ดูแลรักษาลูกค้ารถยนต์ของโตโยต้า โดยมีประวัติคราวๆ ว่า ย้อนไปไกลถึงสมัยที่โตโยต้าผลิตรถยนต์กระบะ G1 ออกขาย ด้วยจุดเด่นราคาถูกกว่ารถกระบะของอเมริกัน จนได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดปัญหากับรถโตโยต้า G1 ทำให้ลูกค้าไม่พอใจ เพราะต้องเสียเวลาซ่อมแซม และงานของลูกค้าเสียหาย จนทำให้ Kiichiro Toyoda ผู้ก่อตั้งรถยนต์โตโยต้า จึงมีปณิธานว่า ต่อไปนี้รถยนต์โตโยต้าจะต้องมีการวิเคราะห์ ซ่อมแซม ที่รวดเร็ว แม่นยำ และเล็งเห็นถึงความสำคัญของลูกค้า

คุณป้าชาวญี่ปุ่น กำลังเลือกซื้อข้าวแกงกระหรี่ยี่ห้อโตโยต้า

ศูนย์บริการหลังการขาย ทาจิมิ เซ็นเตอร์ ชั้น 1 และชั้น 2 เป็นพื้นที่ใช้ในการอบรม ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของออฟฟิศ และชั้น 4 เป็นห้องออดิทอเรียม และโรงอาหาร ส่วนด้านข้างก็เป็นสนามประเมินผลด้านการขับขี่ ความยาวของสนามหนึ่งรอบประมาณ 1.3 กิโลเมตร โดยจำลองถนนในการทดสอบ 13 รูปแบบ ที่เป็นถนนที่ใช้ในชีวิตจริงจากทั่วโลก

เนื้อสไลด์ ชุดชาบูชาบู คีบลงไปจุ่มในน้ำเดือนอร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม

ออกจากศูนย์บริการหลังการขาย ทาจิมิ เซ็นเตอร์ ก็เดินทางกลับเข้าเมืองนาโกยา ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็มาถึง โรงแรมที่พัก แล้วก็เดินทางไปต่อร้านอาหารที่นัดไว้กับอาหารชุดจักรพรรดิ ชุดเรียกน้ำย่อย ที่มีถ้วยละนิดละหน่อยและบางถ้วยก็รสชาดจืดสนิทและเย็นเหมือนกินวุ้นจืดๆ เลย และตบท้าย ชาบูชาบู ชุดย่อมๆ ก่อนทานก็จะใช้หม้อสเตนเลส เติมน้ำ แล้วใช้แอลกอฮอลล์เป็นเชื้อเพลิงในการต้มน้ำจนเดือดแล้วก็คีบเนื้อสไลด์เข้าไปจุ่มแกว่งไปแกว่งมาพอสุก แล้วก็จิ้มกับน้ำจิ้มชาบูชาบู รสชาติจะคล้ายๆ กับเต้าหู้ยี้เจ ทานกันหมดจนต้องขอเพิ่มกันอีกชุด ทางร้านก็นำออกมาให้อีกชุดทั้งหมด ตั้งแต่จานใส่เนื้อแล้วก็ชุดหม้อต้ม ถ้วยน้ำจิ้ม ไม่เหมือนบ้านเราเลย ขออีกชุดก็แค่ยกจานใส่เนื้อมาให้อย่างเดียว

พอจบมื้อค่ำก็เดินทางกลับเข้าโรงแรมที่พักประมาณ 2 ทุ่ม ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ ห้างยังไม่ปิด ก่อนขึ้นห้องก็เดินลัดเลาะผ่านสถานีรถไฟนาโกยา ไปยังห้าง BIC CAMERA ที่ขายกล้องถ่ายรูปและเครื่องใช้ไฟฟ้า เดินดูหากระเป๋ากล้องแบบที่อยากได้ก็หาไม่เจอ จนทางห้างประกาศจะปิดห้างแล้วและให้มาใช้บริการวันรุ่งขึ้น ช่วงเดินกลับไปโรงแรมที่พักก็สวนกับกลุ่มคนไทยที่กำลังเลือกอุปกรณ์กล้อง คุยกันอยู่ ก็คิดในใจว่านอกจากกลุ่มเราแล้วยังมีคนไทยมาเที่ยวที่นี้ด้วย

ก้องเกียรติ ศรีทับทิม…รายงาน

วันที่ 9/01/2557 เวลา 7:59 น.