“เอกซ์พารา” เปิดตัวยิ่งใหญ่ในไทย
“เอกซ์พารา” ผู้นำด้านการลงทุนนวัตกรรม Start-Up ให้กับบริษัทเปิดใหม่จากสิงคโปร์ เปิดตัวในไทยหวังระดมทุน multi-stage ระดับภูมิภาค 2.5 พันล้านบาท หรือ 100 ล้านดอลลาร์สิงค์โปร์ สร้าง Start-Up ไทยสู่สากล เชื่อปัญหาด้านการเมืองไม่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจเกิดใหม่ในอนาคต เหตุมีแรงงานคนรุ่นใหม่เป็นทรัพยากรชั้นเยี่ยม เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดประตูสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนในเวทีการค้าเสรีอาเซียน
นายดักลาส อับราฮัม ผู้ก่อตั้งบริษัท Expara (เอกซ์พารา) กล่าวถึงบริษัทว่า เอกซ์พาราเป็นบริษัทจากประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 ดำเนินธุรกิจสนับสนุนการเงิน และการลงทุนให้แก่บริษัทหน้าใหม่ (start-up) ที่มีนวัตกรรมทางความคิดในตลาดด้านสื่อดิจิตอล พร้อมทั้งดำเนินธุรกิจด้านการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ซึ่งประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ปัจจุบันได้ขยายการดำเนินธุรกิจในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ควบรวมประเทศที่มีศักยภาพด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ภายใต้องค์กรในชื่อ “เอกซ์พารา เวนเจอร์ (ประเทศไทย)”
โดยด้านการดำเนินธุรกิจสนับสนุนเงินทุน Expara ดำเนินธุรกิจผ่านทางบริษัทย่อย ซึ่งได้ถูกรับเลือกจากสำนักงานรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ให้เป็น 1 ในไม่กี่ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเพื่อเป้าหมายให้เงินสนับสนุนแก่กิจการบริษัทหน้าใหม่ (Start-Up) ซึ่ง ณ ปัจจุบัน Expara ได้หาเงินลงทุนให้กับ Start-Up รวมกันแล้วกว่า 22 บริษัท สามารถการระดมทุนรวมเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือ 175ล้านบาท ในขณะเดียวกันธุรกิจด้านให้คำปรึกษาด้านการลงทุน Expara มีส่วนช่วยให้หน่วยงานวิจัยของรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ สามารถนำงานวิจัยออกมาทำเป็นธุรกิจสร้างผลตอบแทนได้จริง พร้อมระดมทุนได้มากกว่า 3 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือราว 75 ล้านบาท โดยให้คำปรึกษาครบวงจรตั้งแต่การนำความคิดริเริ่มทางธุรกิจ การบริหารธุรกิจ การทำการตลาด จนต่อยอดสร้างรายได้เป็นตัวเงิน
เหตุจูงใจหลักที่ทำให้ Expara เข้ามาเปิดตลาดการลงทุนในประเทศไทย เป็นเพราะแนวโน้มแรงงานรุ่นใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง เห็นได้จากจำนวนมูลค่าเพิ่มของการบริโภคสินค้าประเภทเทคโนโลยีสื่อสาร และสารสนเทศของกลุ่มคนเมืองที่เป็นไปในทิศทางบวก ผนวกกับปัจจัยของการพัฒนาในด้านวิทยาการที่เป็นผลพลอยได้จากต่างประเทศ ทำให้เกิดการเติบโตของความคิดสร้างสรรค์จนเกิดความน่าสนใจ รวมทั้งระดับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด โดยเชื่อว่าปัจจัยด้านการเมืองในไทยขณะนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งเท่านั้น จึงจะไม่เป็นอุปสรรคในการขยายธุรกิจของบริษัทใหม่ๆ ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญในตลาดการลงทุนคือ จำนวนผู้ทำธุรกิจร่วมลงทุน Venture Capitalist หรือ Angel Investor ยังไม่มีตัวเลข หรือจำนวนที่เห็นได้อย่างชัดเจนในประเทศไทย จึงคาดว่าการลงทุนประเภทนี้สำหรับในประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเราเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถผลิตบริษัทหน้าใหม่ Start-Up ที่มีความสามารถและศักยภาพออกสู่ตลาดนานาชาติได้อย่างแน่นอน จึงเป็นที่คาดการได้ว่าจะระดมทุนได้ภายในปีแรกอย่างน้อย 90 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เป็นอย่างน้อย
เอกซ์พารา ได้ถูกรับเลือกเป็นผู้จัดงานคอร์สศึกษาตลาดไทยในชื่อโครงการ iSTART (ไอสตาร์ท) ซึ่งเป็นโครงการที่มีต้นแบบร่วมพัฒนาโดยบริษัทเอกซ์พารา และรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ใช้เพื่อส่งเสริมการเปิดตลาดต่างประเทศของเหล่าบริษัท Start-Up โดยประกาศรับสมัครคัดเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการทำตลาดต่างประเทศสูง เพื่อพาไปศึกษาตลาดแบบเข้าถึงตัวผู้มีบทบาทสำคัญในแวดวงธุรกิจ Start-Up ซึ่งตลอดโครงการ iSTART นอกจากจะมีการสรรหานักธุรกิจและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากการระดมทุนมาเป็นพี่เลี้ยงวิทยากรให้คำชี้แนะ เทคนิคการนำพาธุรกิจเข้าสู่ตลาดต่างแดนแบบตัวต่อตัว
โดยความสำเร็จของโครงการ iSTART ในต่างประเทศนั้นมีให้เห็นมากมาย อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน โดยปีนี้ประเทศไทยได้ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ในไม่กี่ประเทศที่ทางหน่วยงานภาครัฐบาลประเทศสิงคโปร์ประสงค์จะส่งผู้ประกอบธุรกิจกว่า 15 บริษัทเพื่อมาดูงาน ถึงแม้ iSTART@Thailand ยังไม่มีผลสรุปถึงความสำเร็จในแง่ของรายได้ หรือผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวเนื่องจากงานเพิ่งจัดเสร็จไปเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางผู้จัดงานมีความมั่นใจมากว่าจะสามารถประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ที่จัดมาก่อนหน้า
วันที่ 3/01/2557 เวลา 11:45 น.