“ชัยวัฒน์” ซบอกนายเก่า
“ชัยวัฒน์” ตามนายเก่าหลังซื้อกิจการคอสเวย์ โดดร่วมวงปั้นขายตรงแบรนด์ใหม่ “เอพพิค” (EPIC) ดีเดย์ เปิดตัวเป็นทางการ 15 ธ.ค.นี้ เผยแผนการตลาด-โปรโมชั่น กระชากใจดึงดูดเลือดใหม่เข้าสู่ธุรกิจ แม่ทีมเก่าตบเท้าร่วมงานเพียบ ลั่น!ปีแรกหวังฟันยอดพันล้าน การเปิดตัวบริษัทขายตรงน้องใหม่เพื่อทำการตลาดในระบบขายตรงหลายชั้นในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “เอพพิค (EPIC)” โดยความร่วมมือทางธุรกิจของ มร.เกล็น เจนเซ่น (อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและเจ้าของผู้ก่อตั้ง บริษัท เอเจล เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด) และเบอร์จาย่า กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ขายตรง อีคอสเวย์ ในนามบริษัท คอสเวย์ จำกัด โดย มร.เกล็น เจนเซ่น เข้าซื้อกิจการอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
นายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์ รองประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชีย บริษัท เอพพิค อีร่า จำกัด เผยว่า บริษัทจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 15 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งในวันนั้นจะมีผู้บริหารและการเปิดตัวผู้นำ ตลอดจนทีมแพทย์ผู้เชียวชาญ ทั้งนี้จากการที่คอสเวย์เป็นบริษัทขายตรงที่อยู่ในเมืองไทยมาอย่างยาวนานกว่า 17 ปี มีสินค้ากว่า 600 รายการ ตลอดจนมีสินค้าที่เป็นนวัตกรรม เมื่อรวมกับแผนการจ่ายรายได้ที่เน้นการทำธุรกิจแบบง่ายๆ ทำให้จะสามารถดึงคนใหม่เข้ามาทำธุรกิจได้ถาวร
“คอสเวย์มีที่เมืองไทยมากว่า 17 ปี มีความเชี่ยวชาญเรื่องสินค้าและบริการอยู่แล้ว ตอนนี้อีพิคมีสินค้า 6 ตัว ซึ่งผ่านการขออนุญาตจาก อย.แล้ว 2 ตัว และกำลังรอให้ผ่านการอนุญาตอีก 4 ตัว ซึ่งจะเปิดตัวพร้อมกันในวันที่ 15 ที่จะถึงนี้ แต่เดิมคอสเวย์แผนเป็นแบบสตาร์สเตป แต่เอพพิคเราใช้แผนไบนารี่บวกยูนิเลเวล แผนจะดึงคนใหม่ให้เข้ามา และสินค้าจะดึงคนให้อยู่ ที่ผ่านมาคอสเวย์มีจุดแข็งเรื่องสินค้า ทำตลาดมากว่า 30 ปี แต่เนื่องจากราคาสินค้าที่กำหนดอีวีต่ำเกินไป เราจะมีการปรับ ค่อยๆ ปรับทีละตัว ส่วนตัวไหนที่มาร์จิ้นอยู่ได้ เราก็ไม่ปรับ”
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เอพพิคมีเงินทุนช่วงแรกกว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทุนในการทำตลาดให้ขยายในประเทศต่างๆ กว่า 11 ประเทศ ซึ่งจากการที่คอสเวย์มีสาขากว่า 17 ประเทศทั่วโลก กว่า 1,000 สาขา ในประเทศไทยมีศูนย์อยู่กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ การทำการตลาดจึงไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนชื่อศูนย์คอสเวย์ที่มีอยู่จะมีการรีแบรนด์ ส่วนจำนวนศูนย์ใหม่ไม่ได้ตั้งเป้า แต่ต่อไปจะเพิ่มข้อกำหนดให้มากขึ้น อย่างเช่น คนที่จะเปิดต้องมียอดขาย อาจเป็นลักษณะ Leadership Center
“เราจะบุกให้หนักขึ้น หน้าที่ผมคือการดูแลตลาดเอเชีย ซึ่งจะรุกในเมืองไทยก่อน ขณะนี้ก็มีไปเปิดแล้วที่อินโดนีเซีย ส่วนกัมพูชา พม่า ลาว เป็นประเทศใหม่ที่เราจะเข้าไป ซึ่งปัจจุบันก็มีแม่ทีมจากที่นั่นเขาทำตลาดกันอยู่แล้ว เราจะไปเปิดอย่างถูกต้อง”
ด้านจำนวนสมาชิก นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สมาชิกตอนนี้มีจำนวนหลายพันคน ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเพราะมีสมาชิกเก่าของคอสเวย์อยู่เยอะ ซึ่งคนที่ต้องการทำธุรกิจเอพพิค จะต้องสมัครสมาชิกใหม่ โดยบริษัทสนับสนุนเครื่องมือในการทำตลาด เช่น การทำตลาดแบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมาชิก โดยเฉพาะโปรโมชั่นท่องเที่ยว
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า จากการที่มีกระแสข่าวว่ามีแม่ทีมหลายคนเตรียมจะเข้าร่วมธุรกิจ โดยเฉพาะแม่ทีมเก่าๆ จากอาเจล ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่ามีความสนิทสนมกับแม่ทีมหลายคน ที่กระจายตัวกันอยู่ในหลายๆ บริษัท ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยและนัดทานข้าวกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนจะมีใครที่จะมาร่วมธุรกิจเอพพิคนั้นต้องมีความชัดเจน และต้องรอดูวันที่เปิดตัวบริษัทว่ามีใครบ้าง
ล่าสุด แม่ทีมชื่อดัง นายนิติ สว่างทรัพย์ ประกาศลาออกจากอาเจลและตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจกับเอพพิคอย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ผ่านมาเขาคือผู้นำต้นๆ ของบริษัท อาเจลและเป็นผู้บุกเบิกตลาดอาเจลทั้งในประเทศไทย และในกลุ่มประเทศอาเซียนมาแล้ว
สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน
วันที่ 12/12/2556 เวลา 10:35 น.