SGP ชี้ Q4 รายได้ทำสถิติสูงสุด
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP ผู้ประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซ LPG) ทั้งในและต่างประเทศ ธุรกิจแอมโมเนีย และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่นๆ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “สยามแก๊ส” และ “ยูนิคแก๊ส” รวมถึงประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งทางรถและทางเรือ ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2556 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2556 และจากงวดเดียวกันของปี 2555 เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก สนับสนุนธุรกิจการจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศของบริษัทฯ ให้มีการเติบโตที่ดีขึ้น
“เทรนด์ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกในช่วงไตรมาส 4/2556 ที่ผ่านมาราว 2 เดือน ยังคงมีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง โดยราคาก๊าซ LPG ในเดือนพฤศจิกายนปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และคาดว่าในเดือนธันวาคม ราคาก๊าซ LPG จะสูงขึ้นได้อีกกว่า 200 เหรียญ เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน จึงมีความเป็นไปได้ว่าในไตรมาส 4/56 จะทำสถิติรายได้ที่เป็น New High อีกครั้ง ซึ่งสูงกว่าไตรมาส 3/56 ที่มีรายได้ราว 45,616 ล้านบาท” นางจินตณา กล่าว
ขณะเดียวกันธุรกิจในประเทศก็มีแนวโน้มเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน จากมาตรการตรวจจับและคุมเข้มของภาครัฐบาล ที่ส่งผลให้การลักลอบซื้อขายก๊าซ LPG ในเขตชายแดนลดลง รวมถึงจะช่วยป้องกันการลักลอบถ่ายเทก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนไปยังภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการทยอยปรับราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 เป็นต้นไป เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง การทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนดังกล่าวเพื่อให้มีความใกล้เคียงกับราคาก๊าซภาคขนส่งในปัจจุบัน ซึ่งสยามแก๊สเองมีความมั่นใจในการให้บริการ จากความได้เปรียบของจุดกระจายสินค้าที่มีอยู่ในศูนย์กลางของแต่ละภูมิภาค อีกทั้งยังมีความพร้อมของระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ จากปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนยอดขายบริษัทฯ ให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ และมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 47,751.88 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิจะมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 817.05 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักบริษัทฯ มาจากธุรกิจในต่างประเทศอยู่ที่ 60% ส่วนสัดส่วนในประเทศอยู่ที่ 40% และคาดว่าในปี 2557 บริษัทฯ จะมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 70% ส่วนสัดส่วนในประเทศอยู่ที่ 30% ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อคลังก๊าซเพิ่มอีก 1 แห่งในประเทศแถบอาเซียน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และอยู่ระหว่างการมองหาการลงทุนในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
วันที่ 6/12/2556 เวลา 9:04 น.