THBA ยึดเวทีเมืองทอง
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ยอมรับวิกฤติการเมืองฟาดหางกำลังซื้อไตรมาสสุดท้ายปีนี้ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เตรียมจัดงานใหญ่ THBF’14 ต้นปีหน้า ใช้เป็นเวทีกลางให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ รับสร้างบ้าน วัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน หวังเรียกความเชื่อมั่นและดึงกำลังซื้อกลับคืน พร้อมผลักดันตลาดรับสร้างบ้านขยายและเติบโตทั่วประเทศ คาดภายในปี 58 มูลค่าตลาดรวมโตแตะ 1.5 หมื่นล้านบาท เล็งส่งเทียบเชิญผู้ประกอบการร่วมออกบูธโชว์ในพื้นที่จัดงาน 1 หมื่น ตร.ม. หรือเกือบ 500 บูธ เตรียมอัดงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์กว่า 10 ล้านบาท ตั้งเป้าดึงคนเข้าชมงานแสนราย เผยจับมือ สอศ. จัดนิทรรศการโชว์ผลงานเด่นนักเรียนอาชีวะหวังเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ เร่งปั้นบุคลากรสาขาช่างเทคนิคก่อสร้างป้อนสถานประกอบการ เล็งยกระดับค่าจ้าง ปวช.-ปวส.เทียบเท่าปริญญาตรี
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจนนำมาสู่การประท้วงของภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ เพื่อขับไล่รัฐบาล กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะกำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดังนั้น แนะว่าผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน ควรมีแผนสำรองหรือปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
อย่างไรก็ดี สมาคมฯ คาดว่าไม่น่าจะมีการใช้ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย เพียงแต่คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพื่อนำไปสู่การเจรจาหรือหาทางออกอย่างใดอย่างหนึ่ง และเริ่มต้นเดินหน้าบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขต่อไป
“ก่อนหน้านี้ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ซึ่งนิยมใช้บริการ “บริษัทรับสร้างบ้าน” นั้น ได้แก่ กลุ่มผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้ ต่างก็เลือกตั้งสำนักงานและแข่งขันกันอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ มาโดยตลอดเช่นกัน ทั้ง 2 ปัจจัยจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดรับสร้างบ้านและการแข่งขันกระจุกตัวโดยไม่มีการขยายออกไปยังภูมิภาคหรือต่างจังหวัด ทั้งนี้ผลที่ตามมาก็คือ ปริมาณและมูลค่าขนาดตลาดรับสร้างบ้านไม่เติบโตเท่าที่ควรเมื่อเปรียบเทียบกับการถือกำเนิดของธุรกิจรับสร้างบ้านในประเทศไทยที่มีมานานหลายสิบปีแล้ว”
จากสถานการณ์ดังกล่าว สมาคมฯ เห็นว่ากำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ น่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ดังนั้น จึงได้เตรียมจัดงานแสดงนวัตกรรมบ้านและนิทรรศการอาชีวศึกษา ครั้งที่ 1 ขึ้นภายใต้ชื่องาน ไทยแลนด์ โฮมบิลเดอร์ แฟร์ 2014 (Thailand Home Builder Fair 2014) หรืองาน THBF’14 ในระหว่างวันที่ 5-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพื้นที่จัดงานแสดงฯ ขนาด 1 หมื่นตารางเมตร
ทั้งนี้เพื่อจะใช้เป็น “เวทีกลาง” สำหรับผู้ประกอบการรับสร้างบ้านและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มาออกบูธโชว์และพบกับกำลังซื้อจากผู้บริโภคจากทั่วประเทศ โดยสมาคมฯ จะเชิญชวนผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน รับสร้างบ้านอพาร์ตเมนต์ รับสร้างโรงงาน โครงการบ้านจัดสรร ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน ทั้งที่เป็นสมาชิกและมิใช่สมาชิกจากทั่วประเทศที่สนใจมาร่วมออกบูธในงานแสดงฯ ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการช่วยกันกระตุ้นกำลังซื้อและผลักดันธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2557 ให้ขยายและเติบโตทั่วประเทศทางหนึ่ง ทั้งนี้สมาคมฯ ประเมินว่าตลาดรวมรับสร้างบ้านปี 2556 นี้มีมูลค่าประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท และน่าจะสามารถเติบโตแตะ 1.5 หมื่นล้านบาทได้ภายในปี 2558 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
สำหรับการจัดงาน THBF’ 14 ครั้งนี้ สมาคมฯ ตั้งเป้ามีผู้บริโภคและประชาชนสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่า 1 แสนคน โดยสมาคมฯ เตรียมงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ไว้ 10 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ
นายสมาคม กล่าวว่า การจัดงาน THBF’14 ครั้งนี้ สมาคมฯ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อร่วมกันเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ของผู้ที่ศึกษาในระดับอาชีวะ จากที่เคยเห็นแต่ข่าวด้านลบหรือยกพวกตีกัน มาสู่การนำเสนออีกด้านหนึ่งที่เป็นด้านบวก เพื่อจะสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ความสามารถของผู้ที่เรียนอยู่ในระดับอาชีวะ โดยสมาคมฯ จะทำการรวบรวมผลงานเด่นๆ ของนักเรียนอาชีวะที่ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในวิทยาลัยเทคนิค พร้อมทั้งนำเสนอนักธุรกิจตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ ซึ่งเป็นบุคลากรที่เกิดจากผลผลิตของสถานศึกษาในระดับอาชีวะมาก่อนหน้านี้ เพื่อจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้ผู้สนใจได้ชมกันภายในงานแสดงฯ นี้ รวมทั้งสมาคมฯ จะจัดให้มีการแข่งขันทักษะฝีมือช่างประเภททีม โดยแบ่งเป็นประเภท 1) การแข่งขันออกแบบและเขียนแบบ 2) การคำนวณหรือประมาณราคาค่าก่อสร้าง 3) การแข่งขันตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้าง โดยทีมที่ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับโล่เกียรติยศและเกียรติบัตร พร้อมทั้งทุนการศึกษารวม 150,000 บาท จากสมาคมฯ
นอกจากนี้ สมาคมฯ จะเชื่อมโยงภาคธุรกิจรับสร้างบ้านกับสถานศึกษาระดับอาชีวะเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในการกำหนดหลักสูตรและผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการ เพื่อป้อนเข้าสู่สถานประกอบการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานระดับช่างเทคนิคของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ทั้งปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการ ก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี พร้อมตั้งเป้ายกระดับค่าจ้างแรงงานระดับ ปวช.-ปวส. สาขาช่างก่อสร้าง ให้สูงเทียบเท่าระดับปริญญาตรีทั่วไป เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อในระดับอาชีวะมากขึ้น
นายสิทธิพร ยังกล่าวถึงในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ว่า ต้องยอมรับยอดขายของบริษัทฯ จนถึงสิ้นปีนี้น่าจะจบที่ 1,300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ 1,400 ล้านบาท
สำหรับทิศทางแผนการในปีหน้าที่จะถึงนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ 10 สาขา โดยปัจจุบันนี้เรามีสาขาทั่วประเทศแล้วประมาณ 38 สาขา ซึ่งตามแผนงานธุรกิจนั้น เราตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี จะมีสาขาครบ 50 สาขา รวมไปถึงการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายมาก ซึ่งกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 2,000 ล้านบาท มองว่า บริษัทฯ น่าจะมีโอกาสโดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด หากวิเคราะห์กันจริงๆ แล้ว ยังมีดีมานด์มากพอสมควร เป็นต้น
วันที่ 27/11/2556 เวลา 6:50 น.