สศอ.ยาหอม ศก.ปีหน้าฟื้นชีพ

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงทิศทางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน ซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยชะลอการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับผู้ประกอบการอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในการผลิต จากการเติบโตของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ได้ส่งผลให้อัตราการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยังติดลบอยู่ที่ 7.71%

“มองว่าหลังจากนี้ไปอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อัตรากำลังการผลิตจะขยายตัวดีขึ้น ด้วยยอดคำสั่งซื้อเข้ามามาก ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ในระบบ Cloud computing และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่จะมารองรับการจัดเก็บข้อมูลที่มีจำนวนมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ส่งออกอย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีนเอง มีสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำลังการผลิตทั้งปีจะดีขึ้น โดยจะติดลบอยู่ที่ 3.09% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ติดลบถึง 17.13% และประเมินว่าในปีหน้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กำลังการผลิตน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ จากปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว”

ในกรณีดังกล่าวนี้ สอดคล้องกับการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ที่ประเมินสถานการณ์การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกถึง 14% เมื่อเทียบกับการส่งออกทั้งหมด โดยประเมินมูลค่าการส่งออกของปีนี้จะติดลบอยู่ที่ 1.27% ด้วยมูลค่า 3.1598 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ช่วง 9 เดือนปีนี้ติดลบที่ 2.2% หรือคิดเป็นมูลค่า 2.3652 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปีหน้าตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 0% หรือมีมูลค่าเทียบเท่ากับปีนี้

ทั้งนี้ภาครัฐ ได้เตรียมยุทธศาสตร์ที่จะผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมายดังกล่าว ที่จะมีการเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดใหม่ จากเดิมที่มีสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และญี่ปุ่น ที่เป็นตลาดหลัก และประเทศที่มีศักยภาพในอาเซียนอย่าง สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ลาตินอเมริกา อินเดีย และตะวันออกกลาง พร้อมทั้ง สร้างเครือข่ายพันธมิตรและขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งจะเป็นแกนกลางสนับสนุนสมาคมต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาและขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่

สำหรับด้านการผลิตนั้นจะมีการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพื่อยกระดับสินค้าและปรับตัวสู่การเป็นโรงงานที่พัฒนาสินค้าแบบมีดีไซน์หรือ โอดีเอ็ม และยกระดับสู่การเป็นโรงงานที่ผลิตสินค้าในแบรนด์ของตัวเองหรือโอบีเอ็ม อีกทั้งการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือใช้เทคโนโลยี ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เป็นต้น

วันที่ 25/11/2556 เวลา 7:01 น.