คลังเป่านกหวีดกู้จำนำข้าว
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมเห็นชอบและอนุมัติเรื่องการจัดสรรเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (Structural Adjustment Loan : SAL) เพื่อสนับสนุนโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยอนุมัติให้ใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สำหรับโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล จำนวน 400 ล้านบาท และโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จำนวน 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารและติดตามโครงการฯ โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ ในส่วนกรรมการประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, อธิบดีกรมบัญชีกลาง กรรมการ, ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการร่วม
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หัวหิน ไม่คุ้มค่า ว่า กระทรวงคมนาคม พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินงานแต่ละโครงการ ซึ่งมองว่า การคุ้มทุนและคุ้มค่าของแต่ละโครงการ ไม่ได้อยู่ที่การจัดเก็บรายได้จากค่าตั๋วโดยสารเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องวัดจากการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และการพัฒนาเมืองต่างๆ ฉะนั้นจึงมองว่า ใน 2 โครงการนี้ มีความคุ้มค่าที่จะลงทุน
นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะออกพันธบัตรรัฐวิสาหกิจรุ่นใหม่ที่รูปแบบแตกต่างไปจากเดิมให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงินไม่เกิน 75,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย.นี้ เพื่อให้ ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องอย่างเพียงพอในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลการผลิตปี 56/57
“ที่ผ่านมา สบน.อนุญาตให้รัฐวิสาหกิจสามารถออกพันธบัตรได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งกระทรวงการคลังค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ เช่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำพันธบัตรให้แล้ว และในอนาคตก็จะไม่ค้ำประกันพันธบัตรให้แก่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แต่พันธบัตรของ ธ.ก.ส.ในรอบนี้ กระทรวงการคลังเห็นว่า ธ.ก.ส.มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อนำไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพื่อให้เกษตรกรชาวนามีรายได้” นายสุวิชญ กล่าว
นายสุวิชญ กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบของพันธบัตร ธ.ก.ส.จะมีวงเงินไม่เกิน 75,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะค้ำประกันทั้งเงินต้น และค้ำประกันดอกเบี้ย พร้อมกับรับภาระเงินต้นและรับภาระดอกเบี้ยทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ความเสี่ยงของพันธบัตรดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกับพันธบัตรของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบัน สบน.ได้ออกพันธบัตรให้แก่ ธ.ก.ส.ไปแล้วประมาณ 410,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้เสริมสภาพคล่องให้แก่ธนาคารในโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะให้ ธ.ก.ส.เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สบน.ก็จะทยอยเปลี่ยนรูปแบบพันธบัตรของ ธ.ก.ส.ทั้งหมดที่มีอยู่หลากหลายลักษณะ มาเป็นรูปแบบใหม่ในเบื้องต้นประมาณ 180,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะค่อยๆ ทยอยปรับปรุงต่อไปในอนาคต
นายสุวิชญ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันพันธบัตรที่กระทรวงการคลังมีทั้งแบบค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน ซึ่งรูปแบบของการค้ำประกัน มีทั้งค้ำประกันเงินต้น ค้ำประกันดอกเบี้ย และในบางครั้งจะรับภาระดอกเบี้ยให้ด้วย แต่พันธบัตรชุดนี้ สบน.เพิ่มอีก 1 ขั้นคือ รับภาระเงินต้นแทน ธ.ก.ส. เพื่อการันตีว่า นักลงทุนที่ซื้อพันธบัตรดังกล่าวไม่ได้คืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
วันที่ 20/11/2556 เวลา 11:06 น.