ฟิลิปปินส์ (8-15 พ.ย. 56)
ซูปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนถล่มฟิลิปปินส์ เสียหายอย่างหนัก นานาชาติเร่งให้การช่วยเหลือ
หลังจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่มภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเป็นพายุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลูกหนึ่งของประศาสตร์โลก มีความเร็วลมราว 315 กม.ต่อ ชม. ได้พัดผ่านบริเวณภาคกลางของฟิลิปปินส์สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ในหลายจังหวัด มีรายงานไฟดับ และระบบการสื่อสารคมนาคมถูกตัดขาดในหลายพื้นที่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นแทบไม่ต่างจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มหลายประเทศบริเวณมหาสมทุรอินเดียเมื่อ 9 ปีที่แล้ว
ทางการของฟิลิปปินส์ได้เปิดเผยว่าประชาชนหลายแสนคนในพื้นที่ประสบภัยจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดผ่าน กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตและต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนกว่าที่เป็นอยู่ เกิดเหตุการณ์ปล้นสะดมข้าวของเครื่องใช้ จึงต้องมีทหารตำรวจจัดกำลังเดินตรวจตราตลอดเวลา นอกจากนี้ทางการฟิลิปปินส์ยังได้เปิดเผยยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 2,357 ราย มีประชากรกว่า 8 ล้านคน ใน 43 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบและรอคอยความช่วยเหลือ
ขณะที่ความช่วยเหลือจากนานาชาติได้หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสหรัฐฯ อังกฤษ สหประชาชาติ องค์การกาชาดสากล และประเทศในเอเชียอย่างญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย โดยแต่ละชาติได้ส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยกู้ซากศพและลำเลียงอาหาร สิ่งของจำเป็น และความช่วยเหลือทางการแพทย์ไปสู่ประชาชนอย่างเร่งด่วน ทางด้านของสหประชาชาติก็วอนนานาชาติบริจาคเงินช่วยเหลือฟิลิปปินส์กว่า 9,000 ล้านบาท เพื่อแจ้งจัดทำแผนปฏิบัติการมูลค่า 310 ล้านเหรียญสหรัฐ เน้นเรื่องการจัดหาอาหาร สุขอนามัย ที่พัก การเคลื่อนย้ายซากปรักหักพัง และการคุ้มครองกลุ่มอ่อนแอที่สุด
แหล่งที่มา: voathai.com voicetv.co.th และ posttoday.com
ตัวแทนฟิลิปปินส์ประกาศอดข้าวประท้วงกลางวงประชุมโลกร้อนของ UN
นายเย็บ ชาโน หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของฟิลิปปินส์ประกาศอดข้าวประท้วงกลางวงประชุมพหุภาคืว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของสหประชาชาติ ที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ไปจนกว่าที่ประชุมนี้จะก้าวหน้าอย่างสำคัญในการแก้ปัญหาสภาพอากาศโลก โดยเขาได้โยงปัญหานี้เข้ากับเหตุการณ์หายนะภัยที่ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
นายชาโนได้ระบุว่า เจาจะเริ่มอดข้าวในระหว่างการประชุม จนกว่าจะมีผลลัพธ์ที่สำคัญเกิดขึ้นในการประชุมว่าด้วยสภาพอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
ที่ประชุมเห็นว่า พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของความจริงที่ทุกฝ่ายจะต้องผลักดันปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก และพายุลูกนี้จะช่วยเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกันในเวทีการประชุมนี้
แหล่งที่มา: matichon.co.th