“ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล สปอร์ต เอกซโป 2013”
ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับงาน “ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล สปอร์ต เอกซโป 2013” นำโดยสยามสปอร์ตฯ ผู้นำสื่อกีฬาเมืองไทย จับมือกับ ปตท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมด้วย พันธมิตรกีฬาทั้งภาครัฐและเอกชน ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี
งานดังกล่าวไม่เพียงสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท แต่ยังก่อให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจ โดยมุ่งสู่การเป็น Sport HUB of ASEAN ของประเทศไทย การตบเท้าร่วมงานกว่า 300 บูธ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพียงเพื่อการจัดงานจำหน่ายสินค้ากีฬา หากแต่หมายถึงการแสดงนวัตกรรมในอุตสาหกรรมกีฬา ที่ไทยได้ประกาศความพร้อมในการเป็นศูนย์การค้าด้านอุตสาหกรรมกีฬาอย่างแท้จริง
“เราไม่ได้หวังให้งานนี้เป็นงานขายสินค้ากีฬา” ถ้อยคำหนึ่งที่ นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ย้ำพร้อมขยายถึงความมุ่งหมายของการจัดงานครั้งนี้ว่า ต้องการให้เกิดการต่อยอดในอุตสาหกรรมกีฬา ให้เกิดหมวดหมู่ของการพัฒนาศักยภาพขององค์ธุรกิจมากขึ้น โดยผลปลายทางคือการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาของเยาวชนไทย ให้หันมาสนใจในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
“เมื่อก่อนความนิยมในการเชียร์ลีกฟุตบอลในประเทศยังน้อย แต่สยามสปอร์ตฯ เป็นผู้นำหลักด้านมาร์เก็ตติ้งมาใช้กับวงการฟุตบอล โดยเริ่มจากทีม SCG เมืองทองฯ จนทำให้ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจและความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าให้กับกีฬาฟุตบอลไทยลีกมากขึ้น ซึ่งวันนี้ได้ขยายไปในลีกภูมิภาคแล้ว ดังนั้นในภาพรวมจึงเห็นความคึกคักและตัวนักกีฬาเองที่มุ่งมั่นกับการเล่นกีฬาเป็นอาชีพมากขึ้น นอกจากนี้ยังขยายความนิยมไปถึงกีฬาอื่นๆ อาทิ วอลเลย์บอล, แบดมินตัน เป็นต้น ตัวอย่างของศักยภาพด้านกีฬาเหล่านี้ย่อมทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการส่งเสริมให้บุตรหลานเล่นกีฬามากยิ่งขึ้นด้วย”
โดยธงสุดท้ายของการจัดงานครั้งนี้ สยามสปอร์ตฯ หมายตาไปถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 จะทำให้ขนาดการบริโภคโตขึ้นเป็น 580 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จึงถือเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมกีฬาไทยอย่างยิ่ง
“ศักยภาพของอุตสาหกรรมกีฬาไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ความนิยมดังกล่าวทำให้ภาคเอกชนที่เห็นคุณค่าของการส่งเสริมกีฬาหันมาให้ความสำคัญและสนับสนุนกิจกรรมกีฬากันมากขึ้น โดยเห็นได้จากการตั้งงบประมาณสำหรับกิจกรรมทางการตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างสูง หรือ Sport Marketing ที่ภาคเอกชนนำแผนดังกล่าวเข้าไปสนับสนุนสโมสรฟุตบอลสำคัญของโลกอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, บาร์เซโลนา, รีล มาดริด หรือการเชิญทีมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมระดับโลกมาโชว์ในไทยจนเป็นที่จดจำในระดับสากลหลายแบรนด์ เช่น ช้าง ปตท. หรือ FBT แบรนด์เสื้อกีฬาของไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์การผลิตเสื้อฟุตบอลโลก ในปี 2014 ก็นำนวัตกรรมการผลิตเสื้อกีฬา เครื่องแรกของเอเชียมาร่วมแสดงในงานนี้ด้วย”
การได้รับความไว้วางใจจาก FIFA หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ที่ได้มอบสิทธิ์อย่างเป็นทางการให้ FBT เป็นผู้ผลิตเสื้อและของที่ระลึกให้กับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่จะจัดขึ้นที่บราซิล นับเป็นการการันตีที่ดีต่อความเชื่อมั่นของศักยภาพของเอกชนไทยในสากล แน่นอนว่าการร่วมงานครั้งนี้ด้วยการนำนวัตกรรมได้วางระบบการผลิตใหม่และนำเข้าเครื่องปริ๊นท์ลายผ้า นวัตกรรมการผลิตลายผ้าเครื่องที่ 2 ของเอเชีย ที่ช่วยลดขั้นตอนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถออกแบบลายผ้าและตัดเย็บได้รวดเร็วขึ้น จากเดิม 10 ตัวต่อ 1 ชั่วโมง เพิ่มเป็น 40-50 ตัวต่อชั่วโมงทันที สร้างความเชื่อมั่นต่อศักยภาพด้านกีฬาของไทยยิ่งขึ้น
“สำหรับความพร้อมของไทยในสายตากลุ่มประเทศอาเซียนนั้นมีความพร้อมสูงกว่าประเทศอื่น เพราะมีความหลากหลายสามารถเป็นศูนย์รวมของอุตสาหกรรมกีฬาในภูมิภาคได้ รวมถึงอาจเป็นเวทีแลกเปลี่ยนในอนาคตหรือภาคเอกชนในต่างประเทศที่มีความพร้อมในด้านอื่นๆ เช่น การดูแลความสะอาดในสนาม การจัดสร้างสนามฟุตซอลที่ได้มาตรฐาน การดูแลสนามกีฬาสนามฟุตบอลในภูมิภาคเพื่อให้การแข่งขันเป็นสากลมากยิ่งขึ้น”
ผลสำเร็จจากงาน “ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล สปอร์ต เอกซโป 2013” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก จึงเป็นก้าวย่างสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมายการเป็น Sport HUB of ASEAN HUB ได้ในที่สุด
วันที่ 17/11/2556 เวลา 9:09 น.