เรือรบมะกันถึงฟิลิปปินส์ ยกระดับช่วยเหยื่อพายุ'ไห่เยี่ยน'

เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ เดินทางถึงฟิลิปปินส์แล้ว ทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพในการส่งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยได้มากขึ้น 3 เท่า และสามารถส่งน้ำแก่ผู้ประสบภัยได้มากถึงวันละหลายแสนแกลลอน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน 'ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน' และเรือพิฆาตอีก 2 ลำ ของสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางถึงจังหวัดเลย์เต ประเทศฟิลิปปินส์ แล้วในวันนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากซุปเปอร์พายุไต้ฝั่น 'ไห่เยี่ยน' ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในหมู่เกาะภาคกลางของประเทศ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันพุธ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ว่า เรือยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน จะช่วยขยายขอบเขตของปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต รวมถึงเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ สำหรับขนส่งเสบียงไปมอบให้ผู้รอดชีวิตในที่ต่างๆ ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เผยว่า เรือพิฆาต 2 ลำ เดินทางถึงฟิลิปปินส์แล้ว ขณะที่ความช่วยเหลืออื่นๆ เช่น เรือบรรทุกเครื่องบิน 'เอชเอ็มเอส อิลลัสเทรียส' ของราชนาวีอังกฤษ พร้อมเงินช่วยเหลือจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องบินขนส่งอาร์เอเอฟ จะเดินทางมาสมทบภายใน 1 สัปดาห์

ทางด้าน นาวาเอกพิเศษ พอล เคนเนดี แห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ เผยต่อสำนักข่าวบีบีซี ว่า สหรัฐฯ กำลังยกระดับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขึ้นสู่ระดับที่อาจไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยการมาถึงของเรือยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน จะเพิ่มจำนวนเฮลิคอปเตอร์ที่สามารถใช้ได้อีก 3 เท่า ทำให้สามารถขนส่งน้ำสะอาดแก่ผู้ประสบภัยได้มากถึงวันละหลายแสนแกลลอน

ในเวลาเดียวกัน ยังมีอีกหลายสิบประเทศที่เสนอให้ความช่วยเหลือแก่ฟิลิปปินส์ ทั้งในด้านการเงิน, อุปกรณ์บรรเทาทุกข์ และทีมเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน เช่น ญี่ปุ่น กำลังเตรียมการส่งกองทัพจำนวน 1,000 นาย รวมถึงเรือรบและเครื่องบินรบอีกหลายลำไปช่วยเหลือฟิลิปปินส์ ขณะที่จีนได้ส่งเสบียงและอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ มูลค่า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินอีก 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังฟิลิปปินส์แล้ว

ทั้งนี้ พายุ "ไห่เยี่ยน" เป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนโลก ขึ้นฝั่งทางตะวันออกของภาคกลางของประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนมากกว่า 2 แสนหลัง กระทบประชาชนราว 8.6 ล้านคน ใน 43 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว จำนวน 2,357 ราย บาดเจ็บ 3,853 คน และสูญหายอีก 77 คน

ขณะที่สถานการณ์ในเมืองตาโกลบัน เมืองเอกของจังหวัดเลย์เต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ยังคงมีสภาพเลวร้าย เกิดความวุ่นวายขึ้นหลายแห่ง ขณะที่ประชาชนกว่าพันคนเบียดเสียดกันอยู่ในสนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่องอพยพออกจากพื้นที่ หลังปริมาณอาหารและน้ำเริ่มไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้อยู่อาศัย ขณะที่หน่วยรักษาความปลอดภัย ได้ปะทะกับกลุ่มคนติดอาวุธ ที่บุกเข้าปล้นสิ่งของ อาหาร และน้ำดื่มประทังชีวิต ตามบ้านเรือนที่พังเสียหายและห้างสรรพสินค้าต่างๆ

ชาวเมืองตาโกลบัน เข้าคิวรอรับเสบียงอาหาร

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคน ต่างออกมาเตือนว่า หลายพื้นที่ในเมืองตาโกลบันกำลังเข้าสู่ช่วงที่อันตรายที่สุดสำหรับการระบาดของโรคติดต่อแล้ว หลังพบศพจำนวนมากยังไม่ได้รับการกลบฝัง แม้ในวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์จะเริ่มดำเนินการฝังศพหมู่ผู้เสียชีวิตแล้วก็ตาม.

ผู้ประสบภัยในเมืองตาโกลบันรอรับเสบียงอาหาร

เริ่มฝั่งศพผู้เสียชีวิต

เสบียงอาหารจำนวนมากยังอยู่ที่กรุงมะนิลา