“แบงก์กรุงเทพ” โชว์ศักยภาพ

เปิดสาขาเมดานรับนักลงทุน AEC

 

 

ธนาคารกรุงเทพ ยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน เดินหน้าเปิดสาขาเมดาน ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศอินโดนีเซีย และเป็นเครือข่ายต่างประเทศแห่งที่ 26 หวังเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้านักธุรกิจ เพื่อเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุนที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับเป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารกรุงเทพได้รับอนุมัติจากธนาคารกลางประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ให้สามารถเปิดสาขาเมดาน ณ เมืองเมดาน เมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศ และเป็นเมืองหลวงของจังหวัดสุมาตราเหนือ โดยสาขาเมดานนับเป็นสาขาแห่งที่ 3 ของธนาคารกรุงเทพในประเทศอินโดนีเซียต่อจากสาขาจาการ์ตาที่ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 หรือกว่า 45 ปี และสาขาสุราบายาที่เปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2555

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลให้ธนาคารเลือกขยายสาขาที่อินโดนีเซียเพิ่ม คือ ประชากรทั้งประเทศที่มีมากกว่า 240 ล้านคน เศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากรายได้ประชากรต่อหัวมากกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายหลังการเปิดสาขาที่ 3 แล้วจะส่งผลให้สินเชื่อภายในสิ้นปีนี้เติบโต 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ใช้บริการของธนาคารคิดเป็นสัดส่วน 15-16% ของสินเชื่อรวม โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคาร คือ กลุ่มยานยนต์ ปิโตรเคมี การส่งออก ภาคการเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ยาง และรวมถึงกลุ่มพลังงาน

 

ที่ผ่านมาสาขาธนาคารในอินโดนีเซีย สร้างกำไรได้สูงสุดเมื่อเทียบกับสาขาต่างประเทศ ทั้งหมดของธนาคาร โดยสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องจาก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มเป็น 900 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปีนี้สินเชื่อจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”

สำหรับเมืองเมดานตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านทิศเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญที่กำลังพัฒนาของอินโดนีเซีย รองจากกรุงจาการ์ตาและเมืองสุราบายา นับเป็นโอกาสอันดีที่ธนาคารกรุงเทพได้รับอนุญาตในการขยายเครือข่ายเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งสร้างฐานลูกค้าใหม่ที่มีถิ่นฐานอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศอินโดนีเซีย ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ครบวงจร โดยเฉพาะบริการเพื่อธุรกรรมต่างประเทศและสินเชื่อเพื่อการลงทุน

นอกจากนี้ จากประสบการณ์ความรู้ที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษของผู้บริหารสาขาที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น นับเป็นจุดเด่นของบริการและปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกรุงเทพสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้านักธุรกิจที่มีความสนใจและกำลังศึกษาลู่ทางการลงทุน โดยเฉพาะบริการให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องธุรกิจในตลาดท้องถิ่น ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งกิจการ ระบบภาษี สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ ตลอดจนแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในระดับมหาภาคและในระดับอุตสาหกรรมของประเทศต่างๆ ในอาเซียนและเอเชียตะวันออกที่เครือข่ายของธนาคารครอบคลุม เพื่อให้ลูกค้าของธนาคาร

นายชาติศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารยังคงดำเนินบทบาทธนาคารผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างประเทศกับผู้ประกอบการในเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลกทั้งจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร การที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ ASEAN Economic Community (AEC) จะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในปี พ.ศ.2558 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในภูมิภาค นักธุรกิจผู้ประกอบการในประเทศไทยทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กต่างเตรียมพร้อมสำหรับตลาดที่กำลังขยายตัว ซึ่งเป็นโอกาสที่เปิดกว้างและนำมาซึ่งการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

โดยขณะนี้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ส่วนหนึ่งมีความตื่นตัวมากขึ้นในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและหันไปพิจารณาการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งที่เป็นการกระจายฐานการผลิต การหาลู่ทางส่งสินค้าออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน หรือแสดงความสนใจที่จะไปตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินการด้านการตลาดและการขายในภูมิภาคอาเซียนด้วย

 

“ธนาคารกรุงเทพมองเห็นศักยภาพการเติบโตของอินโดนีเซียที่มีทรัพยากรธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมาก และมีความโดดเด่นด้านเกษตรกรรม เช่น ปาล์มน้ำมัน โดยเฉพาะเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) หรือ AEC จะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในปี พ.ศ.2558 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า นักธุรกิจผู้ประกอบการ ในประเทศไทยทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กต่างเตรียมพร้อมสำหรับตลาดที่กำลังขยายตัว ซึ่งเป็นโอกาสที่เปิดกว้างและนำมาซึ่งการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น”

ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติได้เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะทวีความเข้มแข็ง และเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้นด้วยการเข้าไปลงทุนโดยตรงในทุกประเทศทั่วภูมิภาคในปริมาณที่สูงขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวล้วนมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและการให้บริการของธนาคารกรุงเทพ หนึ่งในธนาคารชั้นนำของภูมิภาคอาเซียนที่ให้ความสำคัญ และมีจุดแข็งความพร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน ที่สามารถให้การสนับสนุนช่วยเหลือลูกค้าผ่านเครือข่ายต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพ นับเป็นธนาคารพาณิชย์ของไทยเพียงแห่งเดียวที่มีเครือข่ายต่างประเทศที่กว้างขวางมากถึง 26 แห่ง กระจายอยู่ใน 13 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกในอีกหลายปีข้างหน้า โดยเครือข่ายของธนาคารมีทั้งในรูปแบบธนาคารท้องถิ่นที่อยู่ในประเทศจีน และมาเลเซีย สาขาของธนาคารในประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, ลาว และยังมีสาขาอยู่ในศูนย์กลางทางการเงินของโลกทั้งในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา และลอนดอน สหราชอาณาจักร อีกทั้งสำนักงานตัวแทนในย่างกุ้ง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า

อย่างไรก็ตาม ด้วยเครือข่ายสาขาที่กว้างขวางและมั่นคงนี้ทำให้ธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคที่มีความพร้อมสูงสุดสำหรับรองรับการหลอมรวมกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน และการดำเนินบทบาทในฐานะผู้นำของเอเชียในทศวรรษต่อไป

 

 

 

วันที่ 11/11/2556 เวลา 11:00 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

208

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน