สั่งดูต้นทุนสินค้าทุกชนิด
พาณิชย์สั่งศึกษาโครงสร้างต้นทุนสินค้าทุกรายการ หวังใช้รับมือพ่อค้า หลังพ้นช่วงขอความร่วมมือตรึงราคาสิ้นปีนี้ เผยแนวโน้มวัตถุดิบส่วนใหญ่ไม่ขึ้น มีแต่ทรงตัวและลดลง พร้อมสั่งสำรวจร้านจานด่วนทั่วประเทศ ดึงเข้าเป็นร้านอาหารธงฟ้า ขณะที่กลุ่มอุตฯ ต่อเรือ วาดฝันปีหน้าจะผงกหัวตามเศรษฐกิจโลก
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแนวทางการดูแลภาวะราคาสินค้าในปี 2557 หลังจากพ้นช่วงระยะเวลาขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าที่จะครบกำหนดในช่วงสิ้นปี 2556 ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจภาวะต้นทุนราคาสินค้าที่อยู่ในความดูแลทั้งหมด 205 รายการ โดยให้ศึกษารายละเอียดเป็นรายสินค้าว่ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกรณีที่อาจจะมีผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคาสินค้า แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคาสินค้าเข้ามา เพราะแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ยังอยู่ในช่วงขาลง และผู้ผลิตมีการแข่งขันกันสูง
จากการตรวจสอบภาวะต้นทุนวัตถุดิบสำคัญๆ พบว่า ส่วนใหญ่มีแนวโน้มทรงตัวและราคาปรับลดลง เช่น กลุ่มเหล็ก ราคามีทิศทางปรับลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เหล็กแผ่นเคลือบดีบุกและเหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม (ทินเพลต) ที่เป็นวัตถุดิบผลิตกระป๋อง ก็มีแนวโน้มราคาลดลง รวมถึงกลุ่มทองแดง ขณะที่วัตถุดิบที่เป็นผลพลอยได้จากปิโตรเคมี เช่น ปุ๋ยเคมี ก็มีแนวโน้มราคาลดลง และกลุ่มอาหารสัตว์ก็มีแนวโน้มราคาลดลง จากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตหลายรายการราคาลดลง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนแนวสินค้าในกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบภาคการเกษตร เช่น ปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มราคาลดลง โดยเฉพาะน้ำมันพืชปาล์ม รวมไปถึงสินค้าที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบ ขณะที่สินค้ากลุ่มอาหารก็มีแนวโน้มราคาลดลง เพราะราคาผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ มีแนวโน้มราคาลดลง จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น
“มองว่าหากมีกรณีขอปรับราคาเข้ามา เราก็จะได้รู้ว่าต้นทุนต่างๆ เป็นยังไง ไม่ใช่เชื่อตามต้นทุนที่ผู้ผลิตยื่นเข้ามา เพราะเราต้องมีการศึกษาสำรวจต้นทุนที่เป็นจริงเอาไว้ ถือเป็นการเตรียมพร้อมล่วงหน้า แต่เชื่อว่าเมื่อพ้นช่วงตรึงราคาไปแล้วจะไม่มีการขอปรับราคาสินค้า เพราะต้นทุนส่วนใหญ่ไม่ขึ้น ราคาน้ำมันก็ไม่ขึ้น ผู้ผลิตมีการแข่งขันกันสูง จึงน่าจะเบาใจได้” นายสมชาติ กล่าว
นายสมชาติ กล่าวว่า ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจหาร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) ราคาถูกอยู่ในช่วงราคา 25-30 บาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อดึงให้เข้ามาร่วมเป็นร้านอาหารธงฟ้าให้ได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการบริโภคอาหารราคาถูก และช่วยลดค่าครองชีพ โดยต้องการให้มีเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วประมาณ 6,000 ร้าน
สำหรับร้านอาหารที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นร้านอาหารธงฟ้า จะได้รับการสนับสนุนจากกรมฯ ในเรื่องของวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เช่น ข้าวสารและน้ำมันพืช รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ที่จำเป็น โดยข้าวสารจะซื้อได้ในราคาถูกกว่าปกติถุงละ 5-10 บาท น้ำมันพืชถูกกว่าปกติ 1-2 บาท ซึ่งกรณีข้าวสารบรรจุถุง หากข้าวถุงรวมใจทำออกมาเสร็จ ก็จะสามารถซื้อได้ทันที
ขณะที่นายวิรัตน์ ชนะสิทธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจต่อเรือและซ่อมเรือซบเซาต่อเนื่องมายาวนานกว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจ โลกคาดว่าอุตสาหกรรมต่อเรือน่าจะฟื้นตัวในปีหน้าตามเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จะมีการลงทุนในการขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่ม ปตท.มีแผนการลงทุน 5 ปีข้างหน้ากว่า 9 แสนล้านบาท ความต้องการเรือให้บริการ
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ในเวลาไม่ถึง 2 ปี ไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างสมบูรณ์ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและประชาชนต้องเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันการค้าเสรี ทั้งการเป็นฐานการผลิตตลาดการค้าและการลงทุนเดียวกัน โดยต้องการให้ทุกภาคส่วนรับรู้ส่งเสริมการเกิดธุรกิจใหม่และการขยายตัวของธุรกิจเดิม การสร้างนวัตกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือและการซ่อมเรือในไทยเป็น 1 ใน 12กลุ่มอุตสาหกรรม (คลัสเตอร์) ที่ไทยจะผลักดัน เนื่องจากมีศักยภาพสูง แนวโน้มและลู่ทางตลาดสดใส
วันที่ 4/11/2556 เวลา 9:11 น.