มาเลเซียประท้วงมะกัน-ออสซี กรณีร่วมสอดแนมในเอเชีย
อานิฟาห์ อามัน
รัฐบาลมาเลเซียเรียกตัวทูตสหรัฐฯและออสเตรเลียเข้าพบ และยื่นหนังสือประท้วง หลังมีข่าวว่าสหรัฐฯใช้สถานทูตออสเตรเลียในเอเชียเป็นฐานสอดแนมข้อมูลข่าวกรอง...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ย. รัฐบาลแห่งประเทศมาเลเซียเรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และออสเตรเลียประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์เข้าพบเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) และได้ยื่นหนังสือประท้วง กรณีสื่อในออสเตรเลียรายเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียทั่วเอเชีย รวมถึงในกรุงปักกิ่งของจีน ถูกสหรัฐฯใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติภารกิจลักลอบดักฟังข้อมูล โดยที่เจ้าหน้าที่ทูตทั้งหลายไม่ทราบถึงเรื่องนี้
ท่าทีล่าสุดของมาเลียเซียเกิดขึ้นขณะเดียวกับที่นาย อานิฟาห์ อามัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศมาเลเซีย พบปะหารือระดับทวิภาคีกับนาง จูลี บิชอป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย นอกรอบการประชุม สภารัฐมนตรีของสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ 13 เมื่อ 1 พ.ย. ซึ่งนายอามันได้แสดงท่าทีกังวลต่อรายงานของหนังสือพิมพ์ 'เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอเริลด์' ที่ระบุว่า สหรัฐฯใช้สถานทูตออกเตรเลีย เพื่อการติดตามและเก็บข้อมูลการโทรศัพท์ ในภูมิภาคเอเชีย "นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำกับพันธมิตร" นายอามันกล่าว
อย่างไรก็ตาม นางบิชอปกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียไม่มีนโยบายในการแสดงความคิดเห็นในประเด็น การข่าวกรอง แต่ยอมรับความกังวลของมาเลเซีย และยืนยันว่าออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับมาเลเซียในระดับสูง
ทั้งนี้ รายงานของสื่อออสเตรเลีย ซึ่งอ้างว่ามาจากเอกสารลับที่ได้รับจากเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนและอินโดนีเซียก็ออกมาประท้วงสหรัฐฯและออสเตรเลีย และเรียกร้องให้มีการชี้แจงทันที.