ฟิลิปปินส์ (9-14 พ.ค. 56)
“สงครามไซเบอร์” ฟิลิปปินส์ – ไต้หวันประทุขึ้นหลังเหตุยิงลูกเรือประมง
แฮกเกอร์ในไต้หวันและฟิลิปปินส์ได้เริ่มทำสงครามไซเบอร์ทางโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากเหตุการณ์ที่ทางการไต้หวันส่งหน่วยรักษาการชายฝั่ง และทหารเรือไปประจำการในน่านน้ำใกล้กับประเทศฟิลิปปินส์แล้วเกิดปะทะกัน ส่งผลให้ชาวประมงของไต้หวันเสียชีวิต 1 ราย จากการยิงของหน่วยรักษาฝั่งของฟิลิปปินส์
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวันเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า หลายเว็บไซต์ของรัฐบาลไต้หวันได้ถูกแฮก ซึ่งชัดเจนว่าผู้โจมตีเว็บไซต์ของรัฐบาลมีฐานอยู่ในฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ เขาคาดว่า การแฮกครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชาวประมงไต้หวันเสียชีวิตจากการยิงของฝ่ายฟิลิปปินส์
จากการสอบสวนของสำนักงานความมั่นคงทางข้อมูลและการสื่อสารพบว่า การแฮกข้อมูลเริ่มต้นในฟิลิปปินส์ พร้อมเรียกร้องให้ทางการฟิลิปปินส์จัดการแก้ไขปัญหา
จากเหตุการณ์ปะทะกันแล้วมีชาวประมงเสียชีวิต ไต้หวันได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการฟิลิปปินส์ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และให้จัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรม ตลอดจนเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์เริ่มเจรจาเกี่ยวกับพื้นที่ทางทะเลระหว่างฟิลิปปินส์และไต้หวัน แต่ฟิลิปปินส์ก็ไม่ได้ขอโทษอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
แหล่งที่มา: abs-cbnnews.comและ matichon.co.th
เปิดหีบเลือกตั้งกลางสมัยของฟิลิปปินส์ กกต.มั่นใจมีความเรียบร้อย
ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฟิลิปปินส์ นายซิกโต บริลลันเตส เปิดเผยว่า การเลือกตั้งทั่วไปจะเริ่มขึ้นระหว่างเวลา 7.oo-19.oo น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม โดยคาดว่าจะทราบผลการเลือกตั้งภายใน 48 ชั่วโมง โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 52 ล้านคน จะลงคะแนนเลือกเจ้าหน้าที่ 18,000 ตำแหน่ง วุฒิสภา 12 ที่นั่ง ส.ส. 233 ที่นั่ง ระบบบัญชีรายชื่ออีก 58 ที่นั่ง ผู้ว่าการรัฐและรองผู้ว่าการอย่างละ 80 ที่นั่ง รวมถึงสมาชิกจังหวัดอีก 766 ที่นั่ง นายกและรองนายกเทศมนตรีอีก 143 เมือง รวมไปถึงสมาชิกท้องถิ่นอื่นๆ เบ็ดเสร็จกว่า 20,000 ตำแหน่ง
ทางด้านของตำรวจและกกต. คาดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ค่อนข้างสันติ ทั้งๆ ที่มีการฆาตกรรมและความรุนแรงก่อนเลือกตั้ง กระนั้น หลายฝ่ายก็ยังกลัวว่าจะมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น
ด้านโฆษกกองทัพเปิดเผยว่า กำลังทหารและตำรวจ 120,000 นายเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับเหตุฉุกเฉินและได้ใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยใบปลิวลงในจังหวัดมาสบาเต หนึ่งในจังหวัดที่มีประวัติเกิดเหตุรุนแรงระหว่างการเลือกตั้ง เรียกร้องให้ผู้คนร่วมใจกันเลือกตั้งอย่างสันติ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 60 คน ทำให้รัฐบาลต้องส่งทหารและตำรวจไปประจำพื้นที่ทางภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สุดว่าจะเกิดความรุนแรงเพื่อป้องกันเหตุนองเลือดในวันเลือกตั้ง
อนึ่ง การเลือกตั้งกลางสมัยครั้งนี้ได้มีการวิเคราะห์กันว่า ถือเป็นการลงประชามติ รวมทั้งยังเป็นการวัดคะแนนนิยมของเบนิโญ อาคิโน ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งมาได้ครึ่งทางของวาระ 6 ปี
แหล่งที่มา: sunstar.com.ph และ bangkokbiznews.com