มาเลเซีย (1-12 ต.ค. 56)

รัฐบาลมาเลเซียจ่ายค่าชดเชยฝ่ายค้านที่ถูกจับกุมเมื่อสองปีก่อน

รัฐบาลนาจิบ ราซัค ยอมจ่ายเงินชดเชยให้กับ ส.ส. และสมาชิกฝ่ายค้านรวม 6 คน เป็นเงินจำนวน 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านบาท) เพื่อประนีประนอมกันนอกศาล หลังจากสมาชิกฝ่ายค้านทั้ง 6 คน ถูกควบคุมตัวอย่างไม่ยุติธรรม ภายใต้กฎหมายความมั่นคงเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้ สมาชิก 6 คนของพรรคสังคมนิยมมาเลเซียถูกจับกุมในปี 2011 และถูกจำคุกเกือบ 1 เดือนภายใต้กฎหมายฉุกเฉินดังกล่าว ซึ่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้โดยไม่ดำเนินคดี ก่อนมีการชุมนุมใหญ่เรียกร้องปฏิรูปการเลือกตั้ง

ชู ชอน ไค หนึ่งในผู้ถูกจับกุม กล่าวว่า รัฐบาลตกลงจ่ายเงินชดเชยความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 200,000 ริงกิต หรือ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ แลกกับการถอนฟ้องในคดีทางแพ่งเมื่อปีที่แล้ว

อนึ่ง รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ยกเลิกกฎหมายฉุกเฉิน และกฎหมายความมั่นคงเข้มงวดอื่น ๆ ในเดือนธันวาคม 2011 หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า กฎหมายเหล่านี้ เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการปิดปากฝ่ายค้าน.

นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของมาเลเซียให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจมาเลเซียสามารถยิงอาชญากรที่ก่อความรุนแรงและเป็นภัยต่อชาติได้ทันที หากมีหลักฐานว่าผิดจริง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านชี้ว่า ความเห็นดังกล่าวเท่ากับเป็นการให้ใบอนุญาตฆ่าแก่ตำรวจอย่างน่าละอายใจ และอาจนำไปสู่สถานการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในปี 2011 เมื่อมาเลเซียอยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน

คำสัมภาษณ์ของนายฮามิดีเกิดขึ้นหลังจากรัฐสภามาเลเซียได้รับรองกฎหมายที่อนุฐาตให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่ต้องสอบสวนก่อน โดยเขากล่าวว่า ภายใต้กฎหมายดังกล่าว เราสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที และหากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าผิด พวกเขาก็ต้องติดคุกอย่างน้อยสองปี ”นั่นคือกฎหมายใหม่ของผม ไม่มีการประนีประนอมใด ๆ อีก”

อย่างไรก็ดี นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวว่า รัฐบาลจะขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จะไม่มีใครต้องตกเป็นเหยื่อของกฎหมายฉบับนี้อย่างแน่นอน

แหล่งที่มา: smh.com.au