เวียดนามฝังศพนายพล'โว เหงียน เกี๊ยบ'วีรบุรุษกู้ชาติ
เวียดนามทำพิธีฝังศพของพลเอก โว เหงียน เกี๊ยบ วีรบุรุษกู้ชาติจากการตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสแล้วในวันอาทิตย์ โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า เวียดนามทำพิธีฝังศพของพลเอก โว เหงียน เกี๊ยบ วีรบุรุษผู้นำกองทัพรบชนะทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา และปลดปล่อยเวียดนามจากการไล่ล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสแล้วในวันอาทิตย์ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีศพเป็นเวลาสองวัน
พลเอกโว เหงียน เกี๊ยบ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ด้วยโรคชรา ขณะที่อายุ 102 ปี โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โลงศพของนายพลเกี๊ยบตั้งอยู่ที่หอพิธีศพแห่งชาติในกรุงฮานอย มีประชาชนนับแสนคนเดินทางไปเพื่อความเคารพศพของเขาเป็นครั้งสุดท้าย
ต่อมาในวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่จะเคลื่อนย้ายศพของเขาอย่างระมัดระวังไปวางบนรถเทียมปืนใหญ่ และเดินทางไปสนามบินเพื่อบินไปจังหวัดกว๋างบิ่ญ โดยมีประชาชนนับหมื่นรวมตัวบริเวณริมถนนหลวงรอรับขบวนนำศพของนายพลเกี๊ยบทั้งระหว่างทางไปสนามบิน และทางไปสถานที่จะพิธีศพในเมืองหวุงเต่าบ้านเกิดของนายพลเกี๊ยบ
พิธีฝังศพของนายพลเกี๊ยบได้รับการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ ท่ามกลางประชาชนนับแสนคน มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งในกองทัพและรัฐบาลมากมาย รวมถึงประธานาธิบดี เจือง เติ๊น ซาง เดินทางมาร่วมในพิธีด้วย
ทั้งนี้ พลอก โว เหงียน เกี๊ยบ เป็นผู้ปลดปล่อยเวียดนามจากการไล่ล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ด้วยการรบที่ เตียน เปียน ฝู ในปี พ.ศ.2497 จนสามารถขับไล่กองทัพฝรั่งเศสออกจากเวียดนามได้หมดสิ้น อีกทั้งยังสามารถขับไล่กองทัพอเมริกาจากการรุกรานในแถบเวียดนามใต้ในปี พ.ศ. 2511 ได้อีกด้วย
ช่วงวัยเด็กของ "โว เหงียน เกี๊ยบ" เติบโตมาจากครอบครัวของชาวนา ในพื้นที่ที่เคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสและจีน จนกระทั่งอายุ 14 ปี เค้าได้เข้าร่วมกับขบวนการใต้ดิน กระทั่งในปี พ.ศ.2481 ได้เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ของ "โฮจิมินห์" โดยได้หนีไปจีนกับ โฮจิมินห์ เพื่อเดินหน้าต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น
ด้านชีวิตสมรส "โว เหงียน เกี๊ยบ" ได้สมรส 2 ครั้ง โดยภรรยาคนแรก ถูกจับและเสียชีวิตในคุกของชาวฝรั่งเศส ในขณะที่เขาไม่ได้อยู่ในเวียดนาม โดยหลังจากนั้น ก็ได้แต่งงานครั้งที่ 2 มีลูกสาว 3 คน และลูกชาย 2 คน
ต่อมา หลังจากการขับไล่ฝรั่งเศสและอเมริกาได้สำเร็จ "โว เหงียน เกี๊ยบ" ก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในปี พ.ศ. 2519 อย่างไรก็ตาม หลังรับตำแหน่งได้ 6 ปี ก็ออกจากตำแหน่ง เพราะถูกกดกันจากระบอบการเมืองในสมัยนั้น