กลับบ้านดึก

หนังโฆษณาในทีวีมีหลายรสชาติ จะไม่ดูเสียเลยก็อาจจะขาดรสชาติครบวงจรในการแสวงหาความรู้จากโทรทัศน์ในบ้าน บางเรื่องก็ขาดสรรพคุณ บางอย่างก็ให้ข้อคิดเห็น และบางทีก็ดูไม่รู้เรื่อง ซึ่งบังคับให้เปลี่ยนช่องโดยอัตโนมัติ

การทำหนังโฆษณา เป็นครีเอชั่นของบริษัทรับจ้างทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือเอเยนซี่ ต้องมีเป้าหมาย ต้องระเบิดความคิด เสิร์ฟแรงแบบอรอุมา สิทธิรักษ์ หรือเสิร์ฟลงบ่อ จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น ก่อนอื่นต้องขอแสดงความนับถือครีเอเตอร์ทั้งหลาย

โฆษณาทีวีสองรายการที่ผมชอบคือ งดเหล้าเข้าพรรษา พ่อโทรศัพท์คุยกับลูกเรื่องจะกลับบ้าน ลูกชายคนเล็กบอกวันนี้แม่ทำกับข้าวจานโปรดรอ แต่พ่อว่า วันนี้กลับบ้านดึก เรื่องของเรื่องคือ จะไปกินเหล้ากับเพื่อนเมื่อเลิกงานแล้ว

อีกรายการหนึ่ง คนนิยมกันมาก คือนายแพทย์ผู้ทรงจรรยาแพทย์ไม่ยอมคิดเงินค่ารักษาพยาบาลร่วมล้านบาทกับคนไข้ เพราะเหตุผลที่ว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว คนไข้รายนี้ชำระเรียบร้อยไปแล้ว ด้วยเกาเหลาและเครื่องดื่ม

ที่จะพูดถึงวันนี้ เกี่ยวกับเหล้า-เบียร์ ที่รัฐบาลเปลี่ยนแปลงภาษีเรียบร้อย ดีขึ้นสำหรับรัฐบาลและเลวร้ายลงสำหรับคอทองแดง

กรมสรรพสามิตชี้แจงว่า อัตราภาษีใหม่ของเหล้า-เบียร์และไวน์ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผลในทางปฏิบัติในสัปดาห์นี้ ห้วงเวลา 3 สัปดาห์ ไม่ใช่สูญญากาศแต่เพื่อความเป็นธรรมของผู้ประกอบการ กับการป้องกันการกักตุนสินค้า ตามยุทธวิธีของกรมฯ

ณ บัดนี้ ถือว่ากรมสรรพสามิตมีความชอบธรรมแล้วด้วยประการทั้งปวง ที่จะเริ่มเก็บภาษีเหล้า, เบียร์ และไวน์ ตามอัตราใหม่ เพราะถือเป็นสินค้าใหม่ออกจากโรงงาน หรือไม่ก็เป็นนำเข้าใหม่จากต่างประเทศ

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ค่ายผลิตเบียร์สิงห์มาซื้อแสตมป์ เพื่อนำเบียร์ออกจากโรงงานเป็นค่ายแรก

อัตราภาษีใหม่จะทำให้เบียร์ขนาดขวดเสียภาษีเพิ่ม เช่น เบียร์สิงห์เพิ่มขวดละ 2 บาท, ลีโอ เพิ่ม 4.30 บาท, ไฮเนเก้น 5 บาท, ไทเกอร์ 30 สตางค์ และเชียร์ 1.70 บาท

เบียร์ขนาดกระป๋อง สิงห์ เสียภาษีเพิ่ม 0.53 บาท ลีโอเพิ่ม 4.14 บาท ไฮเนเก้น 2.61 บาท และเชียร์ 0.57 บาท

เท่าที่ยกตัวอย่างมานี้ อาการหนักคงจะตกอยู่เหล่าสาวก ลีโอเบียร์ ทั้งขวดและกระป๋อง ส่วนไฮเนเก้น ไม่เดือดร้อน เพราะคนดื่มไฮเนเก้นก็เหมือนซื้อรถยนต์หรู จะไปประกอบใหม่ทำไมเพื่อสามารถใช้พลังงานทดแทนได้

เกี่ยวกับอัตราภาษี มีเรื่องที่ประชาชนคาใจอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องที่รัฐบาลมีความคิดจะลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งมีแรงต้านพอสมควรนั้น นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้โอกาสชี้แจงว่า ยังไม่จำเป็นต้องเร่งทำในช่วงนี้ก็ได้ เพราะสามารถเก็บไว้เจรจาต่อรองในเวทีเปิดเสรีการค้าระหว่างอาเซียน-สหภาพยุโรป (EU)

แรงต้านในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากบรรทัดฐานแห่งความเป็นธรรม ขืนลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยลงมา ก็เท่ากับรัฐบาลทุบหม้อข้าวตัวเอง สินค้าฟุ่มเฟือยที่ไทยทำ-ไทยใช้ ย่อมจะอืดได้เหมือนสต๊อกรถยนต์ที่อืดตลาดเวลานี้ เพราะรถคันแรกพ่นพิษ

สินค้าฟุ่มเฟือยนำเข้าน่าจะรวมถึงรถยนต์หรูสั่งจากนอก ถ้าได้อานิสงส์ลดอัตราภาษีนำเข้ากะเขาด้วย คงสนุกพิลึกอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย…………!!!!!

ไท ทองเค.

 

 

วันที่ 26/09/2556 เวลา 6:18 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

217

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน