ผ่ากลยุทธ์ “ดีเน็ทเวิร์ค”
ดี เน็ทเวิร์ค มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย 2 พันล้านภายในปีหน้า เผยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จผ่านสินค้ายอดนิยม ดึงคนดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ รุกสื่อฟรีทีวีเจาะตรงกลุ่ม หวังสร้างแบรนด์และความเชื่อมั่น โค้งสุดท้ายของปีรุกหนักสินค้าเพื่อการเกษตร โหมโปรโมชั่นแจกฟรีบานเย็นแสนกล่อง อีก 2 ปีเดินหน้าตลาดอาเซียน ปูพรมทุกประเทศ กัมพูชานำร่องเปิดสาขา สมาชิกกว่า 5 พันคน
นายสาคร ใสกมล ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการมุ่งเน้นการตลาด 5 เครือข่าย ประกอบด้วย 1.เครือข่ายบุคคล 2.เครือข่ายสื่อ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิ้ล 3.สื่อตามร้านค้า 4.สื่อโลกออนไลน์ และ 5.ตลาดต่างประเทศ ทำให้ปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยประเดิมตลาดผลิตภัณฑ์โกเรจินส์ ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นพระเอกตลอดกาล จากที่มียอด 1-2 ล้านบาท ตอนนี้พุ่งเป็น 60-70 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 8-9 หมื่นกล่องต่อเดือน ส่วนพระรองคือผลิตภัณฑ์ D-10 ยอดขาย 20-30 ล้านบาทต่อเดือน แล้วก็มี ดี คอนแท็กส์ บำรุงสายตา ก็มาแรง ส่วนตัวที่สี่คือ ดี เบรม บำรุงสมอง และมีตัวสวีทพาวเดอร์ กำลังแรงขึ้นมา ขณะนี้เรากำลังโปรโมท สินค้าเกษตรบานเย็น ปัจจุบันยอดขายเราต่อเดือนอยู่ที่ 113 ล้าน และมีค่าเฉลี่ยต่อหัวคือ 1,500บาท ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของขายตรงก็ว่าได้
สำหรับโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมีกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและโปรโมทแบรนด์ออกไปให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค โดยทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านฟรีทีวีช่องต่างๆ ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฆษณาผลิตภัณฑ์โกเรจินส์ ซึ่งมี “เขาทราย กาแล็คซี่” อดีตแชมป์มวยโลกขวัญใจชาวไทย เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยโฆษณาผ่านรายการ และยังมี “ครูสลา” ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ “ดี เบรม” และ “ดี คอนแทค”โฆษณาผ่านฟรีทีวี และ สปอร์ตรายการวิทยุ นอกจากนี้ยังมีการเซ็นสัญญากับรายการ We are So เพื่อโปรโมทสินค้าสวีทพาวเดอร์ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มวัยรุ่น เป็นต้น ทั้งนี้ยังได้วางโครงการระยะยาวในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ผ่านฟรีทีวี ซึ่งมีกว่า 40 ตัว
“4 เดือนสุดท้ายของปี เราหยิบสินค้าที่มีกระแสอยู่แล้วมาตอกย้ำแบรนด์ ให้ผู้บริโภคเกิดการซื้อ ไม่ทิ้งแบรนด์เราไปซื้อยี่ห้ออื่น เอาสินค้าที่มีอยู่แล้วมาโปรโมท มี 6 รายการหลักๆ จ้างพรีเซนเตอร์ โฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ โบชัวร์ ผ่านสื่อฟรีทีวี อย่างล่าสุด คุณเขาทราย มาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาโกเรจินส์ผ่านฟรีทีวี เพราะตอกย้ำแบรนด์ คนที่ซื้ออยู่แล้วให้มั่นใจ และคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ก็กระตุ้นให้ซื้อและเป็นการแนะนำให้คนที่ยังไม่รู้จักให้มีตลาดกว้างขึ้น อยากให้เราเป็นแบรนด์ของมหาชน”
นายสาคร กล่าวว่า บริษัทมีแผนระยะยาวในการสร้างความมั่นคง โดยการลงทุนสร้างสำนักงานบนถนนสุวินทวงศ์ ย่านมีนบุรี กว่า 150 ล้านบาท และการสร้างโรงงานใหม่ของตนเอง งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท โดยจะเป็นโรงงานที่จะรองรับฐานการผลิตที่จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคตและมีความทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดสาขาของบริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ
“เราซื้อที่ดินเพื่อสร้างสำนักงานที่สุวินทวงศ์ โดยใช้เงินสดกว่า 40 ล้านบาท เรายังเตรียมงบอีกกว่า 100 ล้านบาทเพื่อสร้างตึก โดยเป็นเงินสดไม่กู้ธนาคาร แล้วก็โรงงานสร้างเสร็จแล้วที่ร่วมเกล้าใกล้สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ เน้นความทันสมัยและเทคโนโลยีล้ำหน้าจะรองรับการผลิตส่งตลาดอาเซียนทั้งหมด ส่วนสาขาเราเปิดที่สาทร ต่างจังหวัดมีที่เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ ต่างประเทศขณะนี้ที่กัมพูชากำลังจะเปิดอีก 2 เดือนข้างหน้า ใช้งบประมาณกว่า 5 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตามประธาน ดี เน็ทเวิร์ค ยังกล่าวถึงแผนการเปิดตลาดอาเซียนว่าจะต้องเปิดตลาดให้หมดทั้ง 10 ประเทศ ภายในปี 2558-2560 โดยเชื่อมั่นว่าบริษัทได้เตรียมแผนรองรับเป็นอย่างดี อย่างเช่น ประเทศกัมพูชา ที่บริษัทเข้าไปเปิดสาขาได้เพราะมีความพร้อมและสรรพกำลังกว่า 5 พันคนที่พร้อมจะขยายตลาดที่นั่น จากนี้ไปบริษัทจะขยายต่อไปยังประเทศเวียดนาม ลาว และพม่า ตามลำดับ
“เราเตรียมแผนเปิดตลาดอาเซียนมาเป็นอย่างดี ส่วนที่เราหนักใจคือตลาดมาเลเซีย เพราะที่นั่นถือว่าเขาเป็นเซียนขายตรง ดังนั้นเราต้องโชว์ความเด่น ต้องมีการเจาะลึก แต่ก็เชื่อมั่นว่าเราหาจุดได้ เราเปิดกว้างเรื่องต่างประเทศ แต่ก็ต้องเดินทีละก้าวด้วยความมั่นคง”
ส่วนตลาดในประเทศ ประธาน ดีเน็ทเวิร์ค มองว่าประเทศไทยมีความสดใส ยังมีโอกาสและช่องทางอีกมาก ล่าสุด บริษัทมุ่งเน้นทำตลาดสินค้าเกษตร โดยจัดทำโครงการ “100,000 ครอบครัว 100,000 ไร่” ซึ่งบริษัทจะทำการแจกผลิตภัณฑ์ “บานเย็น” 100,000 ซอง ให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็ยนอย่างดี มียอดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่าแสนกล่องเป็นอย่างน้อย
“ปัจจุบันบริษัทมีกว่า 14 โครงการ ที่สนับสนุนให้นักธุรกิจออกไปจัดโอพีพีนอกสถานที่ ใครถนัดอะไรก็ไปจัดเลย ลุยกันเต็มที่ เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แล้วก็เรามีการจัดหลักสูตรผู้บริหาร รุ่นหนึ่งจบไปแล้ว รุ่นนี้จะเป็นขุมกำลังผลักดันสินค้าออกสู่ตลาด ผมคาดว่าสิ้นปี 2557 เราจะมียอดขายเกิน 2 พันล้านแน่นอน” นายสาคร กล่าว
วันที่ 19/09/2556 เวลา 12:54 น.