ชงรัฐกระตุ้นบริโภคใน ปท.

บสย.ทุ่มหมื่นล้านค้ำเถ้าแก่รายใหม่

นายวัชรัศมิ์ ลีละวัฒน์ รองผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) เปิดเผย “รายงานการค้าและการพัฒนา 2013 ขององค์การสหประชาชาติ ว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด ว่า อังค์ถัดประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 2.2% โดยประเทศพัฒนาแล้วเติบโตเพียง 1% ประเทศกำลังพัฒนาขยายตัวถึง 4.5% โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกที่จะขยายตัวสูงถึง 5.5% ดังนั้น กลุ่มประเทศเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจโลกและจะมีบทบาทมากขึ้นจากการรวมตัวกันในภูมิภาค เช่น อาเซียน+3, อาเซียน+6

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวยังไม่สมดุลและยั่งยืน เพราะใช้การส่งออกมาเป็นตัวนำเศรษฐกิจมากจนเกินไป อังค์ถัดเห็นว่าเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกถดถอย หรือเกิดช็อกครั้งใหญ่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ดังนั้นจึงมีข้อเสนอให้ประเทศที่กำลังพัฒนาหันมากระตุ้นอุปสงค์ หรือการอุปโภคบริโภคในประเทศแทนการพึ่งพาการส่งออก และสนับสนุนให้เกิดการค้าระหว่างกันมากขึ้น เพราะเมื่อเกิดการรวมตัวเข้าสู่เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะมีประชากรมากขึ้นถึง 600 ล้านคน ดังนั้นการที่ไทยหันมาส่งออกให้กลุ่มประเทศในอาเซียนมากขึ้นจึงเป็นแนวทางที่ถูกต้อง โดยสัดส่วนการส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน เพิ่มขึ้นจาก 13.8% ในปี 2535 เป็น 25% ในปี 2555

“อังค์ถัดเน้นย้ำว่าเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจถดถอย ทุกประเทศไม่ควรใช้นโยบายรัดเข็มขัด เพราะทำให้กำลังซื้อลดลง เป็นผลพวงให้เศรษฐกิจถดถอย ยืดเยื้อ อังค์ถัดแนะนำให้ใช้นโยบายการเงิน และนโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคในประเทศ” นายวัชรัศมิ์ กล่าว

โดย อังค์ถัด ยังเสนอแนะให้ประเทศกำลังพัฒนาลดการพึ่งพิงเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากมีความผันผวนอย่างมาก สร้างความเสี่ยงสูงและเข้ามาเก็งกำไรในสินทรัพย์ทางการเงิน ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะฟองสบู่และอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่า ประเทศกำลังพัฒนาควรหันมาพึ่งเงินทุนในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลควรมีมาตรการบางอย่างเพื่อให้ประชาชนในระดับรากหญ้าได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้า เพราะจะทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้น

นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ใกล้ถึงจุดตึงตัวของการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเริ่มเห็นการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีข้อจำกัดในการขาดดุลได้สูงสุดไม่เกิน 5% ของจีดีพี ส่วนข้อเสนอที่อังค์ถัดให้พึ่งพาการอุปโภคบริโภคในประเทศนั้น ในส่วนของไทยคงทำได้ยาก เพราะหลังจากรัฐบาลดำเนินโครงการลดภาษีรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก ประชาชนมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น แม้จะไม่สูงมากถึงขั้นจะเกิดวิกฤติ แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ความหวังที่จะให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นคงลำบาก ดังนั้นไทยควรดำเนินนโยบายที่กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน ทำให้คนมีรายได้ ผลผลิตสูงขึ้น คนก็จะมีกำลังซื้อและบริโภคมากขึ้นตามไปด้วย

นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ในปีนี้ บสย. มีโครงการค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ (Strat up) เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำธุรกิจเป็นของตัวเองได้มีโอกาสสร้างกิจการของตัวเอง โดยมีวงเงินค้ำประกันภายใต้โครงการอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท และมีอายุการค้ำประกันอยู่ที่ 7 ปี โดยกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่สามารถยื่นคำขอได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558

ทั้งนี้ ตามปกติแล้วผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการจะขอกู้เงินจากธนาคาร มักจะประสบปัญหาในการขอกู้ไม่ผ่าน บสย.จึงมองเห็นช่องทางในการเข้าไปช่วยเหลือในส่วนดังกล่าว โดยการเข้าไปค้ำประกันให้ 100% ซึ่งมุ่งหวังทำให้กลุ่มคนดังกล่าวสามารถดำเนินธุรกิจที่ต้องการได้ เช่น ต้องการลงทุนในการทำร้านอาหาร โดยใช้เงินลงทุน 2 แสนบาท ซึ่งขั้นตอนในการกู้เงินจากธนาคารส่วนใหญ่ก็จะขอดูแผนธุรกิจ เพื่อพิจารณาองค์ประกอบของธุรกิจว่าเป็นอย่างไร จะมีความสามารถในการผ่อนชำระคืนได้หรือไม่ในอัตราเท่าใด โดยเมื่อธนาคารพิจารณาเห็นแล้วว่าธุรกิจสามารถไปได้ ก็จะมาถึงขั้นตอนของการเรียกหาหลักประกัน ซึ่ง บสย.ก็จะเข้าไปทำหน้าที่ในการช่วยเหลือในส่วนดังกล่าวให้ทันที โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องมีหลักประกัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถได้เงินกู้จากธนาคารเพื่อมาดำเนินธุรกิจที่ต้องการได้ สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานของ บสย.ในปีนี้ จะช่วยเหลือผู้ประกอบการในการเข้าไปค้ำประกันให้ได้ 8.4 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันก็สามรถทำได้ตามแนวทางของ บสย.แบบต่อเนื่อง ซึ่งหากดูจากปริมาณการค้ำประกันสินเชื่อล่าสุดก็เชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

 

วันที่ 13/09/2556 เวลา 22:17 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

225

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน