ก.อุตฯ -บีโอไอโรดโชว์สวิส-อิตาลี
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 9-13 ก.ย.นี้ ผู้บริหารของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะร่วมเดินทางไปกับคณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเยือนสมาพันธรัฐสวิส และสาธารณรัฐอิตาลี อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีด้านการค้า และการลงทุนร่วมกัน รวมถึงใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เรื่องโอกาสและศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาค รวมทั้งความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558
ในวันที่ 10 กันยายนนี้ บีโอไอ ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายไทยและฝ่ายสวิตเซอร์แลนด์ จัดสัมมนาทางธุรกิจ ภายใต้หัวข้อ “Swiss-Thai Business Cooperation” ณ นครซูริก สวิตเซอร์แลนด์ โดยมีภาคเอกชนของสวิตเซอร์แลนด์ในสาขาธุรกิจต่างๆ ทั้งอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งภาคการเงิน ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 100 คน ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยจะกล่าวสุนทรพจน์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและชักจูงการลงทุน พร้อมกับเป็นประธานในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน/องค์กรของไทยและสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนของ 2 ประเทศ
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศผู้ลงทุนสำคัญและเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก โดยเป็นหนึ่งในประเทศจากยุโรปที่เข้ามาลงทุนในไทยค่อนข้างสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2545-กรกฎาคม 2556 มีโครงการจากสวิตเซอร์แลนด์ได้รับส่งเสริมการลงทุนแล้ว 134 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 64,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และกระดาษ รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมโลหะและเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร เป็นต้น
“เศรษฐกิจโดยรวมของสวิส แม้จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยุโรปแต่ก็ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ภาวะเศรษฐกิจขยายตัว 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ซึ่งการเยือนสวิตเซอร์แลนด์ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ โดยเฉพาะด้านการลงทุนที่สวิสมีศักยภาพสูงในอุตสาหกรรมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการชักจูงให้มาลงทุนในไทย อาทิ เครื่องจักร/อุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูง เคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยา และเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น รวมถึงโอกาสที่จะกระตุ้นให้เกิดการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทยในการวิจัยและพัฒนาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือขั้นตอนการผลิตในอนาคต” นายอุดม กล่าว
วันที่ 6/09/2556 เวลา 8:17 น.