ซีพีเอ็น พก 5.8 พันล้านบุกมาเลเซีย

กลุ่มเซ็นทรัลโกอินเตอร์บุกอาเซียน ปักธงมาเลเซียที่แรก สร้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ไอ-ซิตี้ ศูนย์การค้ารีจินัลมอลล์แห่งแรกของซีพีเอ็นที่มาเลเซียมูลค่า 5,800 ล้านบาท เตรียมที่จะเปิดศูนย์การค้าในตลาดอาเซียนเพิ่มอีกประมาณ 2-3 แห่ง เล็งอินโดนีเซียและเวียดนาม โดยในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้เตรียมเปิดเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหาดใหญ่ ส่วนที่สมุย ศาลายา และระยอง อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าน่าจะเปิดตัวราวๆ ปี 2557

น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายพัฒนาธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้างของซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ซีพีเอ็นมีวิสัยทัศน์ในการก้าวเข้าสู่การเป็นนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกระดับภูมิภาค การรุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดอาเซียนถือเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของซีพีเอ็น

โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดเออีซีในปี 2015 จะทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็น single market และมีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน เกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงที่เอื้อต่อการขยายธุรกิจค้าปลีก ซึ่งซีพีเอ็นเล็งเห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการทางเศรษฐกิจของมาเลเซียที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2020 โดยจะทำให้เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัว 7% ต่อปี ให้ประชาชนมีรายได้ต่อหัวประมาณ 480,000 บาท/ปีโดยเน้นการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ จากสถิติที่ผ่านที่มา อัตราการเจริญเติบโตของ GDPของมาเลเซียในปี 2010 อยู่ที่ 246,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2011 เพิ่มขึ้นเป็น 287,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และปี 2012 เพิ่มขึ้นเป็น 307,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนในปี 2013 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 5.5% แม้ว่าอัตราการขยายตัวของเมืองของเมืองในมาเลเซียจะสูงขึ้น มี GDP Per Capita อยู่ที่ 10,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าไทยถึง 2 เท่า(ไทยมี GDP Per Capita อยู่ที่ 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่กลับมีห้างสรรพสินค้าไลฟ์สไตล์น้อยกว่าประเทศไทย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางมาช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า หาดใหญ่ เป็นจำนวนมาก ทำให้ซีพีเอ็นสามารถใช้รูปแบบการบริหารจัดการของเซ็นทรัลพลาซ่า หาดใหญ่มาเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการและการให้บริการลูกค้า รวมถึงการศึกษาพฤติกรรมและวัฒนธรรมการบริโภคเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวมาเลเซียให้ได้มากที่สุด โดยหวังเจาะกลุ่มลูกค้าประเภท Middle to High Income ที่มีอำนาจซื้อสูง

การเข้าไปลงทุนของซีพีเอ็นในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในรูปแบบ Joint Venture ภายใต้ชื่อโครงการ Central Plaza i-City โดยซีพีเอ็นลงทุนร่วมกับ ICP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือของ I-Berhad ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของมาเลเซียและเป็นผู้พัฒนาโครงการ I-City ศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ครบวงจรของมาเลเซีย

โดยมูลค่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้กว่า 5,800 ล้าน ซึ่ง CPI ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และซีพีเอ็น โดยบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศมาเลเซียถือหุ้นในสัดส่วน 60% โดยศูนย์การค้า Central Plaza i-City จะเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของการช็อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงครบวงจรในเขตตะวันตกของรัฐสลังงอร์ บนที่ดินขนาด 28 ไร่ พื้นที่โครงการประมาณ 278,000 ตารางเมตร และพื้นที่ขายประมาณ 89,000 ตารางเมตร โดยซีพีเอ็นจะเข้าไปควบคุมการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Asean Glory@ Central Plaza i-City เส้นสายและเสียงสีแห่งความยิ่งใหญ่ของอาเซียน” รวมทั้งการบริหารศูนย์การค้าแห่งนี้ในฐานะผู้บริหารศูนย์การค้า คาดว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในปี 2557 และจะเปิดให้บริการในปี 2559

สำหรับแผนในอนาคตซีพีเอ็นเตรียมที่จะเปิดศูนย์การค้าในตลาดอาเซียนเพิ่มอีกประมาณ2-3 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะให้เงินลงทุนอีกแห่งละ 4,000-5,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ลงทุน เล็งอินโดนีเซียและเวียดนามเป็นเป้าหมายในการลงทุนครั้งต่อๆ ไป ตั้งเป้าลงทุนเปิดห้างสรรพสินค้าในมาเลเซียอีกกว่า 10 แห่ง ส่วนการลงทุนในประเทศก็ยังคงดำเนินต่อไปคาดว่าน่าจะใช้งบประมาณ 12,000-15,000 ล้านบาท ในการขยายสาขารวมทั้งปรับปรุงสถานที่บริการให้มีความทันสมัย โดยในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้เตรียมเปิดเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหาดใหญ่ ส่วนที่สมุย ศาลายา และระยอง อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าน่าจะเปิดตัวราวๆ ปี 2557

ขณะที่ผลประกอบการที่ผ่านมาในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นกว่า 20% คาดว่าสิ้นปีน่าจะเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 15% ซีพีเอ็นเชื่อว่าการสร้างฐานธุรกิจในประเทศให้มีความเข้มแข็งจะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาบุกตลาดได้ยากขึ้น ที่ผ่านมาซีพีเอ็นถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกระดับภูมิภาคอาเซียน การร่วมลงทุนในครั้งนี้ซีพีเอ็นมั่นใจในศักยภาพทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย และเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์การบริหารธุรกิจของซีพีเอ็น ที่จะนำความแปลกใหม่เข้าไปสู่วงการค้าปลีกของมาเลเซีย และนำพาธุรกิจแบรนด์ไทยก้าวสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อให้เติบโตไปพร้อมๆ กับซีพีเอ็น ส่วน CPI จะช่วยเสริมสร้างจุดแข็งให้กับซีพีเอ็นในการเข้าถึงตลาด สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการบริโภค เข้าใจกฎหมายและวัฒนธรรมท้องถิ่นของคนมาเลเซียได้มากขึ้นเพื่อสร้างการเจริญเติบโตให้กับ Central Plaza i-City ต่อไป

วันที่ 6/09/2556 เวลา 10:55 น.