ดัน “ภูเก็ต” ท่าเรือประมงแห่งแรก ปท.

รมช.เกษตรฯ ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต เป็นท่าเรือประมงแห่งแรกของประเทศ ในการผลักดันเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายปลาทูน่าควบคู่กับการท่องเที่ยวระดับประเทศ รองรับการเปิดประชาคมอาเซียนที่จะถึง เริ่มดีเดย์ 1 กันยายนนี้

ภูเก็ต/ เมื่อเร็วๆ นี้ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ร่วมตรวจเยี่ยมท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต องค์การสะพานปลา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมฟังบรรยายสรุปแผนการดำเนินการจัดตั้ง ทูน่า ฮับ ที่ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต โดยนายประมวล รักษ์ใจ รองผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา เป็นผู้บรรยายสรุป และมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมเพียร ชโลธร หัวหน้าสำนักงานท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

นายประมวล รักษ์ใจ รองผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา กล่าวถึงแผนการจัดตั้ง ทูน่า ฮับ ที่ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายปลาทูน่าสำหรับกองเรือประมงเบ็ดราว การขนส่งปลาทูน่าแช่แข็ง และการแปรรูปปลาทูน่าของภูมิภาคมหาสมุทรอินเดียฝั่งตะวันออก ว่าสำหรับท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต องค์การสะพานปลา ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 และปัจจุบันเป็นท่าเทียบเรือประมงที่ได้รับการรับรองด้านสุขอนามัยท่าเทียบเรือประมง จากกรมประมง มีเรือประมงในประเทศ ที่เข้ามาขนถ่ายสัตว์น้ำ ประกอบด้วยเรือประมงอวนล้อมจับ เรือประมงอวนลาก เรือประมงอวนลากปลากะตัก และไดหมึก รวมร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 เป็นเรือประมงเบ็ดราวจากต่างประเทศ สำหรับสัตว์น้ำที่ขนถ่ายผ่านท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต ประกอบด้วย ปลาทู ปลาลัง ปลาทูแขก ปลาเบญจพรรณอื่นๆ ปลาทูน่า กุ้ง ปลาหมึก ปลากะตัก ในปี 2555 มีปริมาณสัตว์น้ำรวม 29,581 ตัน มูลค่า 1,828,757,320 บาท

ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต มีศักยภาพพร้อมในการพัฒนาและจัดตั้งเป็น ทูน่า ฮับ ในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดียฝั่งตะวันออก ได้ เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือประมงความยาว 500 เมตร สำหรับเรือประมงเบ็ดราวทูน่าแช่เย็น และเรือประมงเบ็ดราวทูน่าแช่แข็ง มีห้องเย็นขนาด 600 ตัน พร้อมโรงผลิตน้ำแข็งวันละ 1,600 ซอง อู่ซ่อมแซมเรือประมงที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนมีพื้นที่สำหรับจัดตั้งเป็นโรงงานแปรรูปปลาทูน่าเป็นเขตส่งเสริมการส่งออก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการจัดตั้งในเดือนกันยายน 2556 เป็นต้นไป มีการบริหารจัดการพื้นที่ท่าเทียบเรือประมง โดยแบ่งพื้นที่ให้เป็นเขตพื้นที่ขนถ่ายปลาทูน่าแยกจากพื้นที่ขนถ่ายสัตว์น้ำทั่วไป จัดบุคลากรควบคุมดูแลการเข้าจอดเทียบท่าและการขนถ่ายปลาทูน่า, จัดเตรียมพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นเขตก่อสร้างโรงงานแปรรูปปลาทูน่า โดยให้เอกชนเข้ามาดำเนินการบริหารจัดการโรงงาน และการก่อสร้างอาคารโรงประมูลปลาทูน่าบริเวณท่าเทียบเรือประมง พร้อมติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลด้านการผลิต การตลาด ปลาทูน่า โดยการนำเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2558 นอกจากนี้กรมประมงในการดำเนินการจัดตั้งระบบ Port State Measure ขึ้นที่ท่าเทียบเรือฯ โดยดำเนินการร่วมกับองค์การอาหารเพื่อเกษตรแห่งสหประชาชาติ กรมประมง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดตั้งกองเรือประมงเบ็ดราวปลาทูน่าที่เป็นเรือประมงสัญชาติไทย โดยการสนับสนุนให้ภาคเอกชนนำเข้า หรือแปลงสัญชาติเรือจากต่างประเทศเป็นเรือสัญชาติไทย และจะมีการบูรณาการหน่วยงานของกรมประมงที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าและส่งออกปลาทูน่าที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงจะมีการประสานหน่วยงานต่างๆ ในการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนตามกฎหมายศุลกากร และการจัดตั้งเขตปลอดอากร

ขณะที่นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า ถือเป็นเร่งด่วนที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ต้องเร่งบูรณาการและส่งเสริมศักยภาพในด้านต่าง ในการผลักดันให้ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตเป็นศูนย์กลาง ทูน่า ฮับ ของประเทศ รองรับการเปิดประชาคมอาเซียนที่จะถึง โดยเบื้องต้นต้องพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสัตว์น้ำที่ครบวงจร ก่อนที่จะส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย ซึ่งท่าเทียบเรือภูเก็ตจะเป็นแห่งแรกของประเทศในการผลักดันเรื่องดังกล่าว ส่วนท่าเทียบเรือประมง และองค์การสะพานปลาในจังหวัดต่างๆ ก็มีแผนที่จะผลักดันให้เป็นแหล่ง ซีฟู้ด ฮับ ในระดับภูมิภาคและ และเป็นการผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางด้านการประมงของภูมิภาคมหาสมุทรอินเดียฯ รวมทั้งจะต่อยอดจนถึงระดับสากล ต่อไป

 

 

วันที่ 2/09/2556 เวลา 19:51 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

190

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน