รัฐไม่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
มองอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นความจริงก็คือ ทำไมคนในสังคมนี้ไม่รู้หรือว่า สภาพแวดล้อมของเกาะเสม็ดถูกทำลายมากว่า 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นการทำลายและบุกรุกทรัพยากร การปล่อยของเสียลงทะเล การกำจัดขยะไม่ถูกหลักสุขาภิบาล สภาพทะเลแถบนั้นมีทั้งท่าเทียบเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับเกาะสมุยและเกาะอื่นๆ มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและสื่อมวลชนเคยคิดกันไหม รัฐบาลในอดีตชุดใดบ้างที่สนใจและเอาจริงกับปัญหาสิ่งแวดล้อมบ้าง บอกได้ว่าไม่มีเลย
ที่สำคัญนักการเมืองนั่นแหละเป็นตัวการในการทำลายสิ่งแวดล้อมเสียเอง พิสูจน์ความจริงได้ที่ภูเก็ต กระบี่ พังงา ฯลฯ เห็นสภาพได้ชัดที่สุด รู้สึกว่าจะหนีไม่พ้นจากความรับผิดชอบของรัฐบาล ซึ่งเชื่อได้ว่า ให้ความสนใจไม่มากนัก เพราะเรื่องใหญ่กว่านี้ยังไม่ทำเลย จะมอบหมายให้เป็นความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ไม่แน่ใจ เพราะพฤติกรรมที่ปรากฏ มักจะเป็นตัวการเสียเอง หรือไม่ก็มีส่วนร่วมในการบุกรุกที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแถบชายทะเล หรือที่ดินที่ใช้ในการปลูกสวนยางและปาล์มน้ำมัน
คำถามจึงอยู่ที่ว่า แล้วเราจะให้ใครดูแลรักษาในเรื่องการบุกรุกทำลายป่า เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมไว้ให้คนรุ่นหลัง นอกจากจะปลุกเร้าให้ประชาชนในท้องถิ่นนั้นมีจิตสำนึกในเรื่องนี้ อนาคตมืดมนจริงๆ สำหรับประเทศไทย สิ่งที่สะท้อนจากเหตุการณ์ที่เกาะเสม็ด ยังแสดงให้เห็นคุณภาพของประชากรไทยในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า เรามัวแต่ไปดูเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ โดยไม่ดูว่าคุณภาพชีวิตของคนไทยจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
มีการเตรียมการไว้รับมือหรือไม่ และอย่างไร ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่เกาะเสม็ด ได้สะท้อนความคิดและทัศนคติของรัฐบาลอย่างไรหรือไม่ เพราะรัฐบาลมัวแต่ยุ่งอยู่กับการป้องกันตนเองจากฝ่ายค้านและผู้ที่ไม่ชอบรัฐบาล จนลืมภารกิจที่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ คือการบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้มีอคติแต่อย่างใดต่อรัฐบาล แต่ขอให้ช่วยกันพิจารณาว่า รัฐบาลนี้ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชนบ้างใน 2 ปีที่ผ่านมา ปัญหาเดิมๆ มีอยู่มากมายไม่ได้รับการแก้ไข ซ้ำยังสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น ให้ศัตรูโจมตีอีก ไม่ทราบว่ารัฐบาลไทยชุดนี้มีที่ปรึกษาในทางการเมืองหรือไม่
ปัญหาในเรื่องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาที่ประเทศอื่นในโลกถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าที่มีไว้ให้คนรุ่นหลัง เขาจึงทุ่มเทที่จะดูแลรักษาไว้ให้คงอยู่ โดยเฉพาะเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น ประเทศต่างๆ ในยุโรป แต่ประเทศไทยซึ่งมีสิ่งสวยงามและสถานที่ต่างๆ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้เงิน แต่ประเทศไทยกลับไม่มีมาตรการในการป้องกันดูแลรักษาเท่าที่ควร ปล่อยให้ผู้มีอำนาจและอิทธิพลบุกรุกและทำลายสภาพแวดล้อมที่สวยงาม เพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวกเท่านั้น เมื่อไหร่คนในสังคมจะรู้สึกต่อต้านคนเหล่านี้ เชื่อว่าคนในสังคมไทยมีความรู้สึกหวงแหนในเรื่องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก แต่ขาดความสนใจและรวมพลังเพื่อต่อสู้ในเรื่องนี้ เป็นลักษณะที่เรียกว่า “ธุระไม่ใช่” ของคนในท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงถูกทำลายแทบไม่เหลือ
วันที่ 27/08/2556 เวลา 6:16 น.