“ปู” เยี่ยมชมฟาร์มหนองโพ จ.ราชบุรี

เมื่อเวลา 11.20 น.ที่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางมารับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรีฯ โดยมีนายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย คณะเจ้าหน้าที่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรีฯ ให้การต้อนรับ

โดยนายสมชาย คำทะมิส ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยกล่าวบรรยายสรุปว่า ธุรกิจของสหกรณ์ฯ มีความก้าวหน้าเป็นลำดับโดยในปีที่ผ่านมาสหกรณ์มูลค่าธุรกิจรวม 3,500 ล้านบาท ปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีโรงงานผลิตนมและเครื่องจักรที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพต่าง ๆ ทั้ง GMP HACCP ISO ทำการผลิตผลิตภัณฑ์นมที่หลากหลายแบบครบวงจร ทั้งนมพร้อมดื่ม นมเปรี้ยว ไอศกรีม โยเกิร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จำหน่ายไปยังร้านค้าทั่วประเทศในทุก ๆ ช่องทาง และยังเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจำหน่ายในโครงการนมโรงเรียนของรัฐบาลตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนมโรงเรียนในปี พ.ศ.2535 จนถึงปัจจุบัน ขณะนี้สหกรณ์ได้เริ่มเตรียมการศึกษาตลาดนมในประเทศเพื่อนบ้านของไทย เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ.2558 และสิ่งที่ทำให้สหกรณ์ฯ มีความภูมิใจยิ่งคือ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมานี้ สหกรณ์ใช้น้ำนมดิบของสมาชิกเองทั้งหมดในการแปรรูปเพื่อจำหน่าย

นายสมชายกล่าวต่อว่านอกจากธุรกิจหลักคือการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมแล้ว สหกรณ์ฯ ยังดำเนินงานด้านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก แต่เป็นธุรกิจรองที่ช่วยเหลือสมาชิกโดยตรง คือ 1. สหกรณ์ฯ มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ของสหกรณ์เอง ทำให้สมาชิกมีความมั่นใจในคุณภาพอาหารสัตว์ ความมั่นคงของปริมาณอาหาร ตลอดจนความยุติธรรมในด้านราคาอาหารสัตว์ 2. ธุรกิจด้านเงินกู้และออมทรัพย์ ที่สมาชิกฯ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีรายได้จากการออมเงินกับสหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยที่ยุติธรรม 3. ดำเนินกิจการร้านค้าสหกรณ์ ที่สมาชิกสามารถมาซื้อของใช้ที่จำเป็นในการเลี้ยงโคนม เช่น ยาสัตว์ อุปกรณ์การเลี้ยงโคนม ตลอดจนสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยสหกรณ์จะทำการตัดชำระมูลค่าสิ่งของต่าง ๆ ที่สมาชิกซื้อ จากยอดเงินค่านมของสมาชิกที่สหกรณ์จ่ายให้ทุก ๆ สิบวัน และ 4. การดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันให้กับสมาชิก และเป็นการหารายได้จากการจำหน่ายน้ำมันให้กับประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งธุรกิจทุกประเภทดังกล่าวข้างต้น สมาชิกจะได้เงินปันผลคืนเมื่อสิ้นปีบัญชีตามหลักการสหกรณ์

นายสมชายกล่าวต่อว่าการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ฯ จะมีความเจริญก้าวหน้าขึ้น แต่หากเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีความรวดเร็วกว่าในอดีตมาก และการดำเนินธุรกิจในรูปแบบสหกรณ์นี้ยังมีข้อจำกัดอีกหลายประการที่ทำให้ศักยภาพทางการแข่งขันของระบบสหกรณ์ไม่สามารถแข่งขันกับเอกชนหรือบริษัทข้ามชาติได้ เช่น 1.ข้อกำหนดหรือระเบียบที่สหกรณ์ฯ ทำให้การดำเนินธุรกิจไม่มีความคล่องตัวเท่าที่ควร 2. เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมขาดพื้นที่เพื่อการปลูกหญ้า ซึ่งหากเกษตรกรมีแหล่งในการปลูกหญ้าอาหารสัตว์ จะทำให้ต้นทุนการผลิตของสมาชิกลดลงได้ และไม่จำเป็นต้องขอปรับราคานมดิบจากรัฐบาลบ่อยครั้งเหมือนในปัจจุบันนี้ 3. เนื่องจากสหกรณ์โคนมหนองโพฯ เป็นองค์กรของเกษตรกร จึงมีความเสียเปรียบด้านบุคลากรที่มีความสามารถในการบริหาร เมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการค้าที่เป็นภาคเอกชน หรือบริษัทนมข้ามชาติ ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมและเงินทุนเพื่อการพัฒนาการตลาด 4. จากปัจจัยภาวะสังคมในปัจจุบันพบว่า อายุเฉลี่ยของสมาชิกผู้เลี้ยงโคนมของสหกรณ์เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยมีผู้สืบทอดการเลี้ยงโคนมน้อยลง โดยหันไปทำอาชีพอื่นมากขึ้น จึงเป็นปัญหาด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงโคนมสมัยใหม่ให้กับสมาชิกสหกรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายแก่คณะผู้บริหารสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรีฯ และผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดราชบุรีว่า วัตถุประสงค์ของการมาดูงานของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เป็นความต่อเนื่องจากการที่ได้นำตัวแทนเกษตรกรไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการเลี้ยงโคนมที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยเห็นควรนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาการเลี้ยงโคนมของไทย และมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกำหนดเขตโซนนิ่งพื้นที่การเกษตรให้มีความเหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งจังหวัดราชบุรีมีพื้นที่การเกษตรในการปลูกข้าวที่ได้ผลผลิตไม่มาก จึงเห็นควรให้นำพื้นที่ดังกล่าวมาปลูกพืชชนิดอื่น เช่น อ้อย หญ้าสำหรับเลี้ยงโคนม ข้าวโพดสำหรับผลิตเป็นอาหารสัตว์ หรือปรับพื้นที่ให้เป็นฟาร์มเลี้ยงโคนม

ทั้งนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ขอให้จังหวัดราชบุรีพิจารณาความเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนเป็นหลัก โดยรัฐบาลพร้อมทำงานสนับสนุนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน สำหรับการเลี้ยงโคนมจะต้องร่วมกันวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน นำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้นในภาพรวม และส่งผลให้รายได้ของประชาชนในจังหวัดราชบุรีเพิ่มขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการทำงานและบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบในเรื่องการเลี้ยงโคนม การตลาด อย่างครบวงจร พร้อมทั้งมอบหมายให้จัดหาแม่พันธุ์โคนมที่มีคุณภาพ พร้อมกับฝังชิพในแม่พันธุ์โคนมเพื่อจัดเก็บสถิติจำนวนผลผลิตน้ำนมดิบในแต่ละวัน รวมถึงจัดหาพื้นที่เพาะปลูกหญ้าและพันธุ์หญ้าที่ดีเพื่อเป็นอาหารให้กับโคนม และให้มีการส่งเสริมให้ความรู้กับบุคลากร เพิ่มทักษะในการเลี้ยงดูโคนม ทักษะการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้จังหวัดราชบุรีสำรวจกำลังการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ในจังหวัดให้สอดคล้องกับโรงงานผลิต สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมโรงงาน ระบบรับน้ำนม ระบบแปรรูปผลิตภัณฑ์นม พร้อมเยี่ยมชมร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรีฯ ที่ด้านหน้าโรงงาน จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ไปไปปฏิบัติภารกิจต่อไปที่โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รถโฟล์คตู้สีดำทะเบียน นบ 1 กรุงเทพมหานคร

 

วันที่ 8/08/2556 เวลา 13:58 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

352

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน