โค้งสุดท้ายเลือกตั้งกัมพูชา กกต.เขมรย้ำ 'สม รังสี' สมัครไม่ได้
โค้งสุดท้ายสำหรับการเลือกตั้งผู้นำกัมพูชา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งย้ำ สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้...
ความคืบหน้าโค้งสุดท้ายสำหรับการเลือกตั้งผู้นำกัมพูชาที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งวันศุกร์ที่ 26 ก.ค. จะเป็นวันสุดท้ายของการหาเสียง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กัมพูชา หรือ National Election Committee เป็นห่วงการทำผิดกฎหมายของผู้ลงสมัครเป็นพิเศษ เพราะพ้นวันที่ 26 ไปแล้ว กฏหมายการเลือกตั้งจะห้ามหาเสียงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ซึ่งนอกจาก กกต. จะห่วงเรื่องการทำงานของพรรคการเมืองแล้ว ยังเป็นห่วงเรื่องสภาพอากาศด้วย ที่อาจมีพายุฝนซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนไม่สามารถออกมาใช้สิทธิได้มากเท่าที่ควร
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ลงพื้นที่ในกรุงพนมเปญเพื่อเกาะติดบรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยล่าสุด นายเทพ นีธา เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชา กล่าวถึงบรรยากาศและปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง รวมถึงประเด็นร้อนที่ นายสม รังสี ผู้นำพรรคกู้ชาติ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ออกมาร้องเรียนว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจนทำให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้และภาพลักษณ์การเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาที่สื่อมวลชนต่างประเทศมองว่าอาจไม่บริสุทธ์บริสุทธิ์ยุติธรรม
“การที่ สม รังสี ไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้นั้น เป็นเรื่องของกฎหมายที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่จะลงสมัครได้นั้นจะต้องลงสมัครตั้งแต่เดือนตุลาคม เมื่อ สม รังสี ไม่ได้ลงสมัครในช่วงเวลาดังกล่าว การจะลงสมัครในเวลานี้ กกต. เห็นพ้องว่าไม่สามารถรับชื่อสม รังสี เข้าอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครได้” เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชา กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องที่สื่อมวลชนต่างชาติมองว่าการเลือกตั้งนี้ อาจมีการแทรกแซงและไม่ใช่คะแนนบริสุทธิ์ ซึ่งจะทำให้ฮุนเซน ชนะตามเคย นายเทพ นีธา มองว่าเรื่องนี้ คงเป็นมุมมองของคนต่างชาติที่มองเข้ามา เชื่อว่าผลการเลือกตั้งคือ สิ่งที่ควรจับตามองมากกว่าข่าวลือ ส่วนกรณีที่สหรัฐอเมริกากำลังจับตามองการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นพิเศษนั้น ถือเป็นสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกาที่จะทำ แต่สำหรับกัมพูชาเองแล้ว มีกฎหมายที่จะเฝ้าระวังและดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ดีอยู่แล้ว
เลขาธิการ กกต.กัมพูชา กล่าวด้วยว่า ในด้านข่าวลือเรื่องการประท้วงที่เกิดขึ้นนั้น กกต. ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะการประท้วง เป็น สิทธิ์ของประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นการประท้วงในกลุ่มเล็กๆ และเป็นการชุมนุมอย่างสงบ ทั้งนี้ กกต. ไม่ได้วางมาตราการในการเฝ้าระวังแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าจะไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น.