เอสพีซีจีแปลงSPCG-W1เร่งลดหนี้
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยในการอนุมัติเปลี่ยนแปลงการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (SPCG-W1)จำนวน 279,999,581 หน่วย จากเดิมที่กำหนดวันใช้สิทธิไว้ วันที่ 2 มี.ค.2558 มาเป็นการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่เร็วขึ้นในปี 2556 แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 25-31 ก.ค. ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 26-30 ส.ค. ช่วงที่ 3 ระหว่าง 24-30 ก.ย.
ทั้งนี้ เหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากในปี 2558 เป็นช่วงเวลาที่ บริษัท มีฐานะทางการเงินที่แข็งแรงแล้ว ทำให้การได้รับเงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพในเดือน มี.ค. 2558 จะไม่สอดคล้องกับความต้องการเงินของบริษัทในภาพรวม ดังนั้นจึงมีแผนที่จะขอปรับระยะเวลาแปลงสภาพเป็นภายในปี 2556 จำนวน 3 ครั้งแทน โดยจะนำเงินที่ได้นี้รับไปเร่งการลดหนี้สินทางการเงิน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และมุ่งหวังที่จะจ่ายปันผลได้เร็วขึ้น โดยจะส่งผลต่อผู้ถือหุ้นที่จะได้รับผลกำไรเร็วกว่าเดิม และจะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริหารในการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ
ทั้งนี้ จากการสนับสนุนของรัฐบาลที่ต้องการให้การผลิตไฟฟ้านั้น นำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยนโยบายดังกล่าวจะส่งผลต่อการทำโซลาร์ รูฟ (Solar roof) ในลักษณะดังนี้ 1.สิทธิประโยชน์ในลักษณะภาษี 2.สิทธิประโยชน์ในการซื้อไฟฟ้าราคาถูก 3.สิทธิประโยชน์ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน 4.ส่งผลให้ไทยได้เป็นผู้นำในอาเซียน ทั้งในส่วนของโซลาร์ ฟาร์มและโซลาร์ รูฟ
นอกจากนี้ รายได้และกำไรสุทธิของบริษัท ยังคงอยู่ในทิศทางการเติบโตเด่นในปี 2557 จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโซลาร์ ฟาร์มทุกแห่ง ทำให้สามารถคาดการณ์การเติบโตทางรายได้มากถึง 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% ส่วนกำไรสุทธิจะก้าวกระโดดเป็น 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% ส่วนการก่อสร้างและการขายไฟฟ้า รายงานล่าสุดของบริษัทในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เข้าระบบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพิ่มอีก 5 แห่ง มี 2 แห่งที่สร้างแล้วเสร็จรอจำหน่ายไฟฟ้า และยังมีอีก 13 แห่ง ที่กำลังเร่งพัฒนาการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ทั้งหมด
วันที่ 15/07/2556 เวลา 16:56 น.