สะท้อนมิติใหม่อาชีวศึกษา
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ร่วมมือกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ทำวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง “อาชีวะไทยในสายตาประชาชน” โดยทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการกว่า 1,000 คน สามารถสรุปได้ว่า ประชาชนและสถานประกอบการจำนวน 32.42% เห็นว่า อาชีวศึกษาเป็นสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งบ่มเพาะวิชาความรู้สร้างคน สร้างอาชีพให้สังคม และเป็นสถานศึกษาที่เป็นทางเลือกหนึ่งและเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนสายอาชีพจบแล้วมีงานทำ มีอาชีพที่มั่นคงรองรับ ส่วนจุดแข็งของอาชีวศึกษานั้น 28.47% เห็นว่ามีภาคปฏิบัติเพื่อฝึกให้เด็กมีทักษะ มีประสบการณ์และเกิดความชำนาญในวิชาชีพ ส่วนจุดอ่อนนั้น 56.07% เห็นว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องเด็กทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกันให้หมดไปได้ และบางส่วนยังเห็นว่า เด็กอาชีวะมีพื้นฐานความรู้ไม่แน่น โดยเฉพาะทักษะด้านภาษา รวมถึงความพร้อมของห้องปฏิบัติการ และอุปกรณ์การเรียนการสอนยังไม่เพียงพอ
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคาดหวังของประชาชนและผู้ประกอบการที่มีต่อสถานศึกษาอาชีวศึกษานั้น 26.79% เห็นว่าเป็นสถานศึกษาที่สร้างเด็กไทยให้มีคุณภาพ มีความสามารถเชี่ยวชาญในวิชาชีพสู้อาเซียนได้ จบแล้วสามารถหางานทำได้ง่าย เป็นที่ยอมรับของตลาด แต่สิ่งที่อยากให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการเพิ่มคือ ขยายสถานศึกษาให้กว้างขึ้น มีอาคารเรียนที่ทันสมัยสะดวกสบาย รวมถึงควรมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันมากกว่าเดิม นอกจากนี้ ในเรื่องการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นั้น สถานศึกษาอาชีวศึกษาจะสู้กับประเทศในอาเซียนได้หรือไม่นั้น 46.49% คิดว่าสู้ได้ เพราะเด็กไทยเก่งมีความรู้ความสามารถ มีฝีมือไม่แพ้ประเทศอื่น สถานศึกษาให้การสนับสนุนและเปิดโอกาสให้กับเด็กได้พิสูจน์ตัวเอง แต่ยังมีอีก 43.51% ที่ไม่แน่ใจ เพราะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาและตัวเด็กเอง ว่ามีความพร้อมเพียงใด และไม่รู้ว่าประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนมีการพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและความมุ่งมั่นของตัวเด็กเอง และอีก 10.00% เห็นว่าสู้ไม่ได้ เพราะเด็กส่วนใหญ่ยังไม่มีทักษะที่ดีพอโดยเฉพาะด้านภาษา และเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยอดทน ขาดการเอาใจใส่ ความขยันอดทนมีน้อย
อย่างไรก็ตาม ประชาชนและผู้ประกอบการจำนวน 17.85% เห็นว่า เนื้อหาวิชาที่เรียนทันสมัย เข้าใจง่ายตรงตามหลักสูตรที่เรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือการทำงานได้ รวมถึงสถานศึกษาอาชีวศึกษายังมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมในช่วงเทศกาลต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ 25.00% มีข้อเสนอแนะว่าควรเน้นการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม จิตสำนึกที่ดีงามให้กับเด็กเพื่อจะได้เรียนรู้และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่ดีได้ และอีก 20.59% เห็นว่า ควรพัฒนาสถานศึกษาให้มีความทันสมัยและเป็นมาตรฐานเดียวกันด้วย รวมทั้งควรเพิ่มทักษะด้านภาษาทั้งการพูด อ่าน เขียน ตลอดจนทำให้อาชีวศึกษาเป็นที่รู้จักมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับของสังคม
วันที่ 5/07/2556 เวลา 23:28 น.