‘จุตินันท์’ ผลงานเข้าตา

สมาชิกไว้ใจเลือก จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี นั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกฯ อีกสมัย หลังผลงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเข้าตาทั้งผลงานนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้ง อาเซียนพาราเกมส์ ที่อินโดนีเซีย, เอเชี่ยนพาราเกมส์ ที่จีน รวมถึงพาราลิมปิกเกมส์ ปีล่าสุด ที่สหราชอาณาจักร รวมถึงการพัฒนานักกีฬาคนพิการอย่างเป็นระบบและการสร้างศูนย์กีฬาคนพิการที่เมืองพัทยา ทำให้คณะกรรมการทั้งหมดต่างวางใจเลือกนายจุตินันท์ให้ดำรงตำแหน่งประธานฯ เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการบริหารคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องเอ็กคลูซีฟ 1, 2 โรงแรมปทุมวันพริ้นเซส โดยมีวาระสำคัญคือเลือกตั้งประธานฯ หลังจากที่ นายจุตินันท์ ดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี (ปี 2552-2556)

ซึ่งในที่ประชุมมีคณะกรรมการที่เป็นสมาชิกเข้าร่วมประชุม 15 ท่าน จากทั้งหมด 17 ท่าน คือ จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี, พล.อ.วิภาส ตันสุหัช, อำนวย กลิ่นอยู่, อรรถฤทธิ์ ศฤงคไพบูลย์, ชาญวิทย์ มุนิกานนท์, สุรสิทธิ์ ทองจันทร์, รวินทร์ ชุมพูนุชธานินทร์, สมบัติ พิพัฒน์พงษ์, พิทักษ์ พลขันธ์, ดร.ปรางทิพย์ ยุวานนท์, สุชาติ แจสุรภาพ, มาโนชญ์ มัชฌิมาวรรณ, พล.ต.โอสถ ภาวิไล, วิธสิทธิ์ ยังประดิษฐ และกิตติพงษ์ โพธิมู

เมื่อถึงวาระเลือกตั้งในที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้ง พล.ต.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการและเลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกฯ เป็นประธานฯ ชั่วคราว จากนั้น ชาญวิทย์ มุนิกานนท์ ได้เสนอชื่อ จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ให้ดำรงตำแหน่งประธานฯ โดยไม่มีใครเสนอชื่อคนอื่นและสมาชิกทั้งหมดต่างไว้วางใจยกมือรับรองทุกท่าน ทำให้จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 (ปี 2556-2560)

นายจุตินันท์ กล่าวว่า “บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการพาราลิมปิกคือการสร้างแรงสนับสนุนให้กับนักกีฬาและสมาคมกีฬาคนพิการที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการพาราลิมปิกฯ รวมทั้งการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในระดับอาเซียน, เอเชีย และระดับโลก ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราภูมิใจในความสำเร็จที่ได้ทำให้พี่น้องชาวไทยรู้จักกีฬาของคนพิการมากขึ้น และภูมิใจที่ได้สร้างแรงเชียร์แรงผลักดันมหาศาลจากพี่น้องชาวไทยสู่นักกีฬา จนทำให้เหล่านักกีฬาสามารถสร้างผลงานการแข่งขันที่ดีจากการแข่งขันในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ที่สหราชอาณาจักร ที่นักกีฬาของสามารถคว้า 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง”

“ต้องขอบคุณทุกฝ่ายทั้ง 5 สมาคมกีฬาคนพิการ ซึ่งเป้าหมายของเราใน 4 ปีข้างหน้า คือ การทำผลงานในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งนักกีฬาที่แข่งขันจะได้รับแรงกดดันมหาศาลจากผลงานของเราในปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าทัพนักกีฬาของเราจะประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง โดยขณะนี้ได้เตรียมทัพนักกีฬาคนพิการคนพิการทีมชาติไทย สำหรับการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ที่พม่า ต้นปีหน้า ซึ่งเราพยายามปั้นนักกีฬาหน้าใหม่ โดย 30 เปอร์เซ็นต์ของนักกีฬาชุดนี้ จะเป็นนักกีฬาที่ไม่เคยแข่งขันในระดับนานาชาติเลยทีเดียว ซึ่งเราไม่ได้แค่เน้นผลการแข่งขัน ็อยากจะพัฒนาในทุกๆ ด้าน ก็อยากให้คนไทยเข้าถึงและติดตามผลงานของคนพิการมากขึ้น นอกจากนี้เรายังเร่งสร้างศูนย์พัฒนากีฬาคนพิการที่พัทยาอีกด้วย เพื่อรองรับการเติบโตของกีฬาคนพิการและยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนากีฬาคนพิการของภูมิภาคอีกด้วย โดยตอนนี้มีโครงการสร้างศูนย์ฝึกกีฬา 2 แห่ง ที่พัทยา แห่งหนึ่ง ก็ต้องหาอุปกรณ์ใหม่ รวมทั้งนักกีฬาหน้าใหม่ๆ ก็ต้องสร้างขึ้นมา และให้โอกาสในการโชว์ศักยภาพ ผลงานของนักกีฬาไทยไม่ธรรมดา นอกจากนี้ก็อยากจะให้โอกาสทหารที่บาดเจ็บพิการ ได้มีโอกาสรับใช้ชาติอีกครั้งด้วยการมาเล่นกีฬา”

วันที่ 3/07/2556 เวลา 7:34 น.