กสอ.ปักธงดันแฟชั่นมุสลิมสู่ AEC
นายโสภณ ผลประสิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชากรชาวมุสลิมทั่วโลกมี 1.62 พันล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของประชากรทั่วโลก ในเอเชียมีชาวมุสลิมกว่า 320 ล้านคน ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของโลก โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นกลุ่มประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดีเพราะเป็นแหล่งพลังงานของโลก จึงมีความพร้อมและกำลังซื้อสูง นิยมบริโภคสินค้าระดับพรีเมียมและคำนึงถึงแฟชั่นมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย หากมีข้อมูลทางการตลาด มีความรู้เรื่องการออกแบบ เข้าใจประเพณีและวัฒนธรรมก็จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ อันจะส่งผลถึงรายได้และความอยู่รอดของผู้ประกอบการ และยังช่วยเหลือเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้อีกด้วย
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานแรกที่ให้ความสำคัญเรื่องเครื่องแต่งกายมุสลิมด้วยการส่งเสริมและพัฒนาด้านการออกแบบ การบริหารจัดการ ด้านการตลาด ด้านการผลิต ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้และให้เป็นผู้นำตลาดในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เราจึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายมุสลิม เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องแต่งกายมุสลิมผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้งการเสริมสร้างช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นการยกระดับสินค้าแฟชั่นมุสลิมให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยหวังพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างบุคลากรเตรียมความพร้อมสู่ตลาด AEC
นายสมพล รัตนาภิบาล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายมุสลิม ป้อนตลาดที่มีประชากรมุสลิมทั่วโลกกว่า 1.62 พันล้านคน กล่าวว่า การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเครื่องแต่งกายมุสลิม ประกอบด้วย 1.การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการและให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก 2.การสร้างช่องทางการตลาด การให้ความรู้ด้านการตลาด การแสวงหาช่องทางการตลาด และการเปิดตลาดใหม่ให้ประสพผลสำเร็จ 3.การผลิตต้นแบบและจัดแสดงนิทรรศการ วันที่ 18 มิ.ย.นี้ ภายในงานจะมีการแสดงนิทรรศการและเดินแฟชั่นโชว์ชุดมุสลิมต้นแบบ
วันที่ 19/06/2556 เวลา 22:45 น.