ชวนเด็กไทย ฟุด ฟิด ฟอ ไฟ รับเออีซี
ในยุคที่การแข่งขันไร้พรมแดน การพัฒนาศักยภาพของคนในชาติเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประเทศของเราต้องเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ ภาษาสากลที่ใช้สื่อสารกันทั่วโลกจึงจำเป็นต่อเด็กยุคใหม่อย่างยิ่ง ซึ่งสำหรับเด็กๆ ในเมืองใหญ่อาจมีโอกาสที่ดีในการได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษกับครูเจ้าของภาษา แต่หากเป็นเด็กๆ ต่างจังหวัดแล้ว สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นเรื่องที่ห่างไกลเสียเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับเยาวชนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่จะต้องรองรับต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคเออีซี จึงได้จัดทำ โครงการมอบเงินสนับสนุนในโครงการจ้างครูต่างชาติพัฒนาภาษาอังกฤษให้กับโรงเรียนในชุมชนรอบท่าเรือ ขึ้นตลอดปีการศึกษา 2556 และเบื้องต้นได้คัดเลือกโรงเรียนนำร่องจำนวน 4 โรงเรียนที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบท่าเรือแหลมฉบังเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ด โรงเรียนบ้านนาวัง โรงเรียนบ้านโรงหีบ และ โรงเรียนบ้านบางละมุง
เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่าโครงการมอบเงินสนับสนุนในโครงการจ้างครูต่างชาติพัฒนาภาษาอังกฤษให้กับโรงเรียนในชุมชนรอบท่าเรือ เป็นหนึ่งในโครงการที่ท่าเรือแหลมฉบังได้กำหนดไว้ในกรอบการดำเนินกิจกรรมด้านโครงการสวัสดิการสังคม คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางเราเล็งเห็นว่า การพัฒนาเยาวชนให้ก้าวสู่สากลจะต้องมีศักยภาพในการคิดอ่านและสร้างสรรค์ โดยใช้ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษสื่อสารรวมทั้งทักษะในการใช้เทคโนโลยี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี พ.ศ.2558
“เนื่องจากเยาวชนเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ สมควรให้การสนับสนุนและวางพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางด้าน การฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยมุ่งเน้นการจัดการศึกษาที่มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ เพื่อให้นักเรียนมีประสบการณ์ตรงในการฝึกภาษาอังกฤษ และร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมกับครูเจ้าของภาษาโดยตรง โดยให้เยาวชนได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ และใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดี”
มร.แมทธิว อีแวนส์ (Mr.Mathew Evans) และ มิสลินส์เซย์ เบเคอร์ (Ms.Lindsay Baker) สองตัวแทนคุณครูสัญชาติอังกฤษ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตื่นเต้นและดีใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาด้านภาษาของเด็กไทย ได้ยินชื่อเสียงของประเทศไทยมานานแล้วว่าเอกลักษณ์ของคนไทยคือ การยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นมิตร วัฒนธรรมของคนไทยคือความใจดี สถานที่สวยงาม มาครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจ และเชื่อมั่นว่าเด็กไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติอื่นๆ มีการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพด้านภาษาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังอาจขาดความมั่นใจและกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษ หากได้รับการฝึกฝนกับเจ้าของภาษาก็จะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น เมื่อมั่นใจก็จะกล้าที่จะสื่อสาร เมื่อใช้งานบ่อยๆ ก็จะเกิดทักษะในที่สุด
สุดท้ายอยากจะฝากไปยังเด็กไทยทุกๆ คนว่า ภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด ค่อยๆ เรียนรู้ และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง พยายามใช้งานบ่อยๆ จนเกิดความเคยชิน และอย่าหยุดที่จะเรียนรู้ เพราะสามารถฝึกในเรื่องของการฟัง พูด อ่าน เขียน ได้จากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงสากล หรือการดูภาพยนตร์ เชื่อว่าทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษเก่งได้ไม่ยากอย่างแน่นอน
มาที่น้องๆ เยาวชนตัวแทนที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้กันบ้าง เด็กชายชยานันท์ ตานา อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโรงหีบ ตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พูดถึงโครงการนี้ว่า
“ผมรู้สึกดีใจมากครับ ที่ทางโรงเรียนได้รับการสนับสนุนเงินจากท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้ผมมีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษจากคุณครูเจ้าของภาษาโดยตรง ซึ่งผมคิดว่าจะทำให้การออกเสียงของผมชัดเจนขึ้น เพราะปกติผมจะไม่ค่อยมั่นใจในการออกเสียง รู้สึกอาย และกลัวว่าจะออกเสียงสำเนียงผิด เพราะภาษาอังกฤษจะแตกต่างกับภาษาไทยตรงเราจะพูดค่อนข้างช้า แต่ภาษาอังกฤษจะเน้นพูดเร็ว แต่ถ้ามีครูต่างชาติมาสอนที่โรงเรียน ผมคิดว่าทำให้ผมสามารถฝึกและพัฒนาในส่วนตรงนี้มากขึ้นครับ”
ส่วนเด็กหญิงเกตวดี แก้วกัลยา อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านบางละมุง ตำบล-อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า
“หนูว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ทำให้เราสามารถสื่อสารกับคนได้ทั่วโลก ได้รู้ว่าคนอื่นเขาเป็นอย่างไร การมีคุณครูชาวต่างชาติมาสอนโดยตรงจะทำให้พวกหนูมีความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษมากขึ้น จริงๆ หนูชอบเรียนภาษาอังกฤษอยู่แล้วค่ะ แต่ยังมีหลายๆ อย่างที่ไม่เข้าใจ เช่น เวลาเราฟังฝรั่งพูดแล้วไม่เข้าใจทั้งที่ศัพท์บางตัวเราก็รู้จัก แต่เพราะสำเนียงและการออกเสียงไม่เหมือนกัน หรืออย่างบางทีคำศัพท์บางคำสะกดเหมือนกันแต่เวลาแปลออกมาเป็นภาษาไทย ความหมายก็จะต่างกัน เป็นต้น
หนูตั้งใจจะเรียนภาษาอังกฤษให้ดีที่สุด และหลังจากนี้ก็จะไม่หยุดที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม และพัฒนาต่อไปเพื่อให้เก่งมากขึ้น และสามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างไม่อายใครคะ และอยากจะฝากบอกไปยังเพื่อนๆ ว่า กฎข้อแรกของการเรียนภาษาอังกฤษคือต้องกล้าที่จะพูด เพราะถ้าเราไม่พูดเราก็จะไม่รู้ว่าเราผิดตรงไหน และหากเรารู้ครั้งต่อไปเราก็จะไม่พูดผิดอีกคะ” น้องเกตวดี กล่าวทิ้งท้าย
นับเป็นอีกหนึ่งแนวคิดดีๆ และแรงผลักดันให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งหากทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและมอบโอกาสที่ดีให้กับเยาวชนเหล่านี้แล้ว ไม่นานประเทศของเราก็จะมีบุคลากรที่มีความสามารถ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันแล้ว ยังเป็นการพัฒนาขีดความสามารถได้อย่างทัดเทียมนานาประเทศได้อย่างแน่นอน
วันที่ 19/06/2556 เวลา 8:41 น.