ไทยสปริงเปิดFB ต้านทักษิณ

 

ศึกโลกออนไลน์ “ไทยสปริง” ปลุกกระแสต้านระบอบทักษิณ ประกาศยกระดับชุมนุม “แข็งข้อพวกทรยศ” เปิดเฟซบุ๊ค “Thai Spring Forum” อัพโหลด 6 คลิป ดีเดย์ 23 มิ.ย.นี้ ขณะที่ “วสิษฐ” โวติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน ต้านรัฐบาลใช้อำนาจมิชอบ ลั่นไม่หวั่นมีชะตากรรมแบบเอกยุทธ ด้าน “พท.” โต้กลับเตรียมผุด 100 เวทีเสื้อแดงชน ประเดิมสัปดาห์หน้า ลั่นปกป้องรัฐบาลต่อต้านกลุ่มจ้องล้ม ส่วน “ส.ส.เสื้อแดง” ฉะพวกหน้าเดิม-ทายาทเผด็จการ-บ่อนทำลายรัฐบาล ตอกแก้วสรรออกหน้า หวังป้องผลประโยชน์สินบนคดียึดทรัพย์ทักษิณ ฉะสภาหละหลวมปล่อยกลุ่มต้านโจมตีรัฐบาล จี้ขุนค้อนตั้งกรรมการสอบใครอนุญาต ขณะที่ “ปชป.” โดดป้องไทยสปริงมีสิทธิ์ใช้ห้องแถลงข่าวสภา อัดกลับ พท.ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ

“ไทยสปริง” เปิดศึกออนไลน์ล้มรัฐบาล

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว. และนายขวัญสรวง อติโพธิ ผู้ประสานงานไทยสปริง ร่วมกันแถลงข่าวการชุมนุมออนไลน์ “แข็งข้อพวกทรยศ” ต่อต้านระบอบทักษิณ หลังจากที่ไทยสปริงเคยจัดกิจกรรมออนไลน์ปฏิเสธปาฐกถาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย โดยมีประชาชนร่วมลงชื่อทั้งสิ้น 26,173 คน และได้ส่งรายชื่อไปยังประชาคมประชาธิปไตยและสถานทูตต่างๆ ในประเทศไทยแล้ว โดยนายแก้วสรร กล่าวว่า ไทยสปริงได้เปิดช่องทางการสื่อสารทางเฟซบุ๊คชื่อ “Thai Spring Forum” เพื่ออัพโหลดคลิปการชุมนุมมาเผยแพร่สัปดาห์ละ 1 คลิป ซึ่งได้มีเฟซบุ๊คการเมืองหลักๆ เข้าร่วมเป็นพันธมิตรแล้ว โดยจะชุมนุมออนไลน์จำนวน 6 ครั้ง ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. เริ่มครั้งแรกวันที่ 23 มิ.ย.นี้ โดยมีหัวข้อในการชุมนุมทั้ง 6 ครั้ง ดังนี้ 1.ทำไม…ไทยสปริง? (ทำทรราชข้างมากให้ชัดเจน) 2.รัฐบาลขี้หมูไหล (รัฐบาลหุ่นที่เหลวไหล พึ่งพาไม่ได้) 3.รถราง…คันนั้นชื่อปรารถนา (บ่งชี้นโยบายประชานิยม ที่กำลังลากจูงประเทศไปสู่ความหายนะ) 4.เหี้ย…เหยียบเมฆ (สังเคราะห์ความยอกย้อนล้ำลึกการคอรัปชั่นในระบอบทักษิณ) 5.ลงแขก…แล้วสู่ขอ (ร่วมคลี่คลายของร่างกฎหมายปรองดอง) 6.แข็งข้อ…พวกทรยศ (ทำความเข้าใจสิทธิแข็งข้อ ของประชาชนที่รัฐธรรมนูญปัจจุบันรับรองไว้) โดยคณะผู้ประสานงานขอยืนยันว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะกระทำภายในพื้นที่ออนไลน์เท่านั้น ไม่ยกระดับไปชุมนุมในที่สาธารณะ “ตรงนี้ถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อปฏิเสธการปกครองในปัจจุบันนี้ ที่รัฐบาลไม่ได้รักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊คนั้น ผมไม่หวั่นว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีจะบล็อกหรือปิด เพราะตามกฎหมายเขาไม่มีสิทธิ์ปิดเฟซบุ๊คได้”

อัพโหลด 6 คลิปต้านระบอบทักษิณ

ด้าน พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่า การชุมนุมผ่านโลกออนไลน์นั้น ถือเป็นการกระทำที่เป็นไปตามสิทธิ์ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 69 ที่ระบุให้บุคคลมีสิทธิ์ต่อต้านโดยสันติวิธีซึ่งการกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ส่วนการเคลื่อนไหวที่จะกระทบกระเทือนใจของฝ่ายรัฐบาล และก่อให้เกิดปรากฏการณ์อย่างที่นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกอุ้มฆ่า ตน นายแก้วสรร และนายขวัญสรวงไม่ได้กังวล และส่วนตัวมองว่าเป็นชะตากรรมที่พร้อมเผชิญ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยืนยันว่าเป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน เพื่อไม่ให้รัฐบาลมีการใช้อำนาจแก้ไขกฎหมายเพื่อประโยชน์ตนเองหรือลดทอนอำนาจศาล ในเดือนสิงหาคมนี้

“วัฒนา” ฉุนใช้ห้องแถลงข่าวสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่กลุ่มไทยสปริงแถลงข่าวอยู่นั้น นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ามาสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ในห้องแถลงข่าวถึงเนื้อหาในการแถลงข่าว รวมถึงตำหนิว่าปล่อยให้แถลงข่าวในลักษณะนี้ได้อย่างไร จากนั้นนายวัฒนาได้แถลงข่าวตำหนิ กลุ่มไทยสปริงทันทีว่า ไม่ควรใช้พื้นที่ห้องแถลงข่าวของฝ่ายนิติบัญญัติไปในทางการเมือง เพราะพื้นที่นี้ มีหลักการให้สิทธิ์ ส.ส. ส.ว. ข้าราชการ และอดีตสมาชิกรัฐสภา ซึ่งนายแก้วสรร ถือเป็นอดีต ส.ว. สามารถใช้เวทีตรงนี้ได้ แต่ควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภาก็ถือว่ามีสิทธิ์ที่จะใช้เวทีนี้ได้ นายวัฒนา กล่าวว่า ใช้ได้ แต่ไม่ควรเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่ใช่มากล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลทรราชเสียงข้างมาก ถ้าจะให้ดี ท่านอาจจะให้ ส.ส. ส.ว. ที่เป็นพวกของท่านมานั่งร่วมรับฟังการแถลงด้วย ซึ่งสมาชิกเหล่านี้จะมีความรับผิดชอบในฐานะที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ถ้าจะมาแถลงการณ์เคลื่อนไหวทางการเมืองแบบนี้อีก ควรจะไปใช้สถานที่ข้างนอกหรือไปเปิดโรงแรมแถลงข่าวจะดีกว่า

เล็งยื่น ปธ.สภาสอบใครอนุญาต

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ตัวแทนกลุ่มไทยสปริง ใช้ห้องแถลงข่าวรัฐสภาเป็นสถานที่แถลงข่าวทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภานั้น ไม่เหมาะสม เป็นเรื่องที่น่าละอาย ไม่มีวุฒิภาวะ ทั้งๆ ที่เคยมีตำแหน่งสำคัญๆ กันทั้ง 3 ท่าน ทั้งนี้ รัฐสภาเป็นที่ทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่สถานที่สำหรับใช้แถลงข่าวเรื่องความเห็นต่างทางการเมือง การต่อต้านรัฐบาลนั้นสามารถทำได้ แต่ควรไปใช้ห้องของโรงแรมเพื่อแถลงข่าว ไม่ใช่ใช้สภาฯ ซึ่งเป็นที่ทำงานของสมาชิกรัฐสภามาเป็นสัญลักษณ์ในการแถลงข่าว เรื่องนี้สภาฯ มีความหละหลวมในการปล่อยให้กลุ่มบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าว เพราะต่อไปหากกลุ่มไทยปริงสามารถใช้ได้ กลุ่มอื่นๆ ก็จะมาใช้ได้เหมือนกัน ดังนั้นอยากให้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติออกมาดูระเบียบและความเหมาะสม หรือตั้งกรรมการสอบด้วยว่า การอนุญาตให้ใช้ห้องแถลงข่าวนั้นถูกต้องตามระเบียบหรือมีความเหมาะสมอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยแบบนี้ จะบอกว่าเป็นอดีต ส.ว.แล้วมาใช้นั้นมันเหมาะสมหรือไม่ ไม่ใช่นำเรื่องความเห็นของคนกลุ่มหนึ่งมาแถลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนขอประณาม “ใครๆ ก็รู้ว่านายแก้วสรรเหลืองจ๋า ถ้าต่อไปคนเสื้อแดงมาขอใช้บ้างล่ะจะเกิดอะไรขึ้น มันจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอีก ผมขอประณาม เพราะใช้สถานที่เหมือนไม่เคารพสถานที่ เหมือนไม่เห็นหัวสมาชิกรัฐสภา มันถูกต้องแล้วหรือ ผมจะยื่นหนังสือให้ประธานรัฐสภาดำเนินการตรวจสอบ และตั้งคณะกรรมการสอบอย่างแน่นอน”

จวกแก้วสรรรับใช้เผด็จการ

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอคัดค้านกับการกระทำของกลุ่มไทยสปริง คือ 1.ขอให้ย้อนกลับไปดูตัวเองด้วย โดยเฉพาะนายแก้วสรร ได้ทรยศต่อวิชาชีพนักวิชาการของตัวเองหรือไม่ เพราะการรับใช้เผด็จการ ด้วยการเข้าไปเป็นบุคลากรของ คตส. ที่ตั้งโดยคณะปฏิวัติ นานาอารยะประเทศไม่ให้การยอมรับ จึงอยากถามว่า ใครกันแน่ที่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง 2.ถือเป็นการบ่อนทำลายรัฐบาล และรัฐสภา ที่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตย สะท้อนแนวคิดอำนาจนิยม อำนาจเผด็จการที่ตนเองเคยรับใช้อยู่ และรับใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยหวังล้มล้างรัฐบาลด้วยวิธีการนอกกติกาประชาธิปไตย และ 3.ในฐานะสมาชิกรัฐสภา หากจะมีการแก้กฎหมายหรือเสนอกฎหมายใด ก็เพื่อเป็นการสร้างสรรค์ระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศเดินได้ในเวทีโลก และการเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง

ส.ส.แดงผุด 100 เวที ชนไทยสปริง

ขณะที่กลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ นายสุนัย จุลพงศธร นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ ร่วมแถลงข่าวเพื่อต่อต้านการทำกิจกรรมของกลุ่มไทยสปริง โดยนายวรชัย กล่าวว่า ตนได้หารือกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มประชาชนที่รักประชาธิปไตยต่อประเด็นดังกล่าว สรุปว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการจัดเวที 100 เวทีทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงประเด็นการปกป้องรัฐบาล ต่อต้านกลุ่มที่ออกมาล้มล้างรัฐบาล ทั้งคนใส่หน้ากากขาว ไทยสปริง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งนี้เมื่อเสร็จจากการจัด 100 เวที แล้วจะมีการจัดเวทีใหญ่ที่ กทม.อีกครั้ง โดยเชื่อว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 1 ล้านคน

จวกพวกหน้าเดิม

ด้านนายสุนัย กล่าวว่า การจัดเวทีดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มที่ออกมาขับไล่รัฐบาลขณะนี้ แต่จะเป็นการเผชิญทางจิตสำนึกมากกว่า ทั้งนี้กับกลุ่มไทยสปริง ที่มาแถลงที่รัฐสภานั้น ล้วนเป็นคนหน้าเดิมทั้งนั้น หากจะแปลเป้าหมายของเขาคือเป็นกลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาลที่มาตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร ถือว่าไม่เคารพกติกา

อัดป้องหัวคิวยึดทรัพย์ทักษิณ

ขณะที่นายสงวน กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว.กทม. และฐานะอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะต้องการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ที่รับรองการกระทำให้ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งโยงไปถึงการดำเนินการของ คตส. และผลประโยชน์ที่นายแก้วสรรจะได้รับจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ในคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำนวน 4.6 หมื่นล้าน ที่ระบุไว้ในระเบียบ คตส. ว่าด้วยการจ่ายสินบนในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของ คตส. พ.ศ.2549 ดังนั้นสิ่งที่นายแก้วสรรออกมาเคลื่อนไหวก็เพื่อปกป้องหัวคิวที่ได้จากเงินรางวัลดังกล่าว ทั้งนี้ตนขอท้าให้นายแก้วสรร ออกมาชี้แจงกับสังคมในประเด็นดังกล่าวด้วย

เย้ยพวกขี้หมูไหล

ด้านนายครูมานิตย์ ฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่นายแก้วสรร นำการเคลื่อนไหวเห็นชัดเจนว่าต้องการเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวหาว่าพวกตนเป็นพวกทรยศต่อหน้าที่และต้องออกจากตำแหน่งนั้น ตามระบอบประชาธิปไตยพวกตนจะออกจากตำแหน่งได้ คือการขาดคุณสมบัติ และออกโดยประชาชนที่เลือกตั้งพวกตนมาเท่านั้น ที่บอกว่าจะเปิดเวทีกล่าวหารัฐบาล ขี้หมูไหล วันนี้ตนก็อยากบอกเหมือนกันว่า วันนี้พวกคนจัญไรก็มารวมตัวล้มรัฐบาลเช่นกัน

ฉะไทยสปริงตอกลิ่มขัดแย้ง

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีกลุ่มไทยสปริงที่มีนายแก้วสรร อติโพธิ และ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร จะจัดชุมนุมออนไลน์ โดยใช้คำว่าแข็งข้อพวกทรยศ และหัวข้อการชุมนุมใช้ถ้อยคำหยาบคาย เช่น คำว่า “เหี้ย” “ทรยศ” “ทรราช” นั้น สะท้อนให้เห็นสภาพจิตใจของผู้จัดว่ายังอยู่ในสภาพที่เคียดแค้น กลัดกลุ้ม ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ก็ได้สร้างความขัดแย้งในชาติมามากแล้ว ตนอยากถามว่าชาติยังขัดแย้งไม่พออีกหรือ นายแก้วสรร อติโพธิ ก็ทำงานรับใช้คณะรัฐประหาร คมช.ที่ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ คตส ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำการสืบสวนสอบสวนที่ขัดหลักนิติธรรม วันนั้นได้ทำงานสร้างความขัดแย้งในสังคม วันนี้ก็มาเคลื่อนไหวสร้างความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเมืองอีก ถ้อยคำที่ใช้ก็หยาบคายซึ่งสุภาพชนเขาไม่ใช้กัน เป็นการใส่ร้ายทำลายบุคคลอื่นอย่างไม่มีมูลความจริง ถ้าเป็นการกระทำของคนไร้การศึกษาก็ไม่น่าแปลก แต่นี่เคยเป็นถึงอาจารย์สอนหนังสือ บุคคลเหล่านี้น่าจะไปสอบถามพี่น้องประชาชน ว่าเขาต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้า หรือเขาต้องการย่ำอยู่กับความขัดแย้ง ท่านเคยฟังประชาชนหรือส่องกระจกดูตัวเองบ้างไหม การเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่าประชาชนก็สนับสนุนพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเราต้องการทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยและออกจากความขัดแย้ง แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งและพันธมิตรที่ลงเลือกตั้งทุกครั้งก็แพ้ทุกครั้ง เอาความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ฟังเสียงส่วนใหญ่ แต่ต้องการกำหนดความเป็นไปในบ้านเมือง แต่ประชาชนไม่เลือก ควรจะทบทวนบทบาทของตัวเองได้แล้วว่า สิ่งที่ทำเป็นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ หรือทำไปเพราะตอบสนองความอยากได้ใคร่มีของตนเอง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยยินดีรับฟังความเห็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร และไม่เคยมองกลุ่มใดเป็นศัตรู การแสดงออกทางการเมืองเป็นเรื่องที่ทำได้ เพียงแต่อยากให้แสดงความคิดเห็นภายในกรอบของรัฐธรรมนูญ และมีความเป็นสุภาพชนที่มีการศึกษาแล้วก็พอ

ปชป.ป้องไทยสปริงใช้ห้องสภา

นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยที่ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว.กทม. และนายขวัญสรวง อติโพธิ ผู้ประสานงานไทยสปริง มาแถลงข่าวกลุ่มไทยสปริงโดยมาใช้สถานที่รัฐสภาแถลง ว่า ตนเห็นว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพ หากครั้งต่อไปนายแก้วสรรจะมาแถลงข่าวอีก ตนก็พร้อมจะลงชื่อรับรองให้ พร้อมทั้งจะมานั่งแถลงข่าวด้วย เพราะห้องแถลงข่าวไม่ใช่ของ ส.ส. ส.ว. แต่เป็นของประชาชน และก็ไม่มีกฎห้ามให้คนนอกมาแถลงข่าวที่รัฐสภา หากอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ตนก็พร้อมพามาแถลงข่าว

 

 

วันที่ 15/06/2556 เวลา 7:26 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

336

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน