พีดี เฮ้าส์สปีดผุด 50 สาขาสร้างบ้าน
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า ตลาดรวมรับสร้างบ้านทั่วประเทศครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะกำลังซื้อในต่างจังหวัดขยายตัวได้ดี ในขณะที่ภาพรวมการแข่งขันของผู้ประกอบการไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งนี้ เป็นเพราะปัญหาขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบก่อสร้างแบบเดิมๆ ไม่พร้อมจะรองรับกำลังซื้อที่มี หรือไม่สามารถขยายกำลังการผลิตได้ตามความต้องการของตลาดที่เติบโต
ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้แล้ว 600 ล้านบาทเศษ ต่ำกว่าเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ตลอดปีที่ 1.4 พันล้านบาท เล็กน้อย โดยยอดขายรวมของบริษัทฯ ที่ได้มา แบ่งเป็นยอดขายจากตลาดต่างจังหวัด ร้อยละ 78 และยอดขายจากตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ร้อยละ 22 อย่างไรก็ดี แม้ว่ายอดขายจะต่ำกว่าเป้า แต่ก็มั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรก ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งบริษัทฯ เองมีการเปิดสาขาในพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก
นายสิทธิพร กล่าวว่า แผนการขยายสาขาในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดสาขาให้ครบ 38 สาขา ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการแล้ว 34 สาขา ยังคงเหลืออีก 4 สาขาเท่านั้นก็จะครบตามแผนการตลาดที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านเอคิวโฮม ที่เปิดให้บริการแล้วอีก 2 สาขา
นายสิทธิพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินการแผนตลาดตามนโยบาย ภายใน 5 ปี จะเปิดสาขาครบ 50 สาขา ซึ่งในปี 2557 นั้น จะครบระยะเวลาตามแผนงานของเราแล้ว โดยตนมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันเปิดสาขาที่เหลือจำนวน 12 สาขา จนครบ 50 สาขาในปีหน้าได้อย่างแน่นอน เนื่องจาก ขณะนี้ บริษัทฯ ยังมีงบการทำตลาดเหลืออีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจับตลาดตามแนวชายแดนนั้น ความคืบหน้าล่าสุดบริษัทฯ ได้โฟกัสพื้นที่ที่ให้ความสนใจที่จะเข้าไปเปิดสาขานั้น โดยเฉพาะ อ.สะเดา จ.สงขลา ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี แม่สาย จ.เชียงราย ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว และ แม่สอด จ.ตาก ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดนำร่องที่จะเข้าไปเปิดสาขา
“แผนการตลาดต่อเนื่องจาก 5 ปี ที่จะเปิดตามแนวชายแดนเพื่อรองรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจการค้าอาเซียนในปี’58 ซึ่งเป็นเป้าหลายที่บริษัทฯ โฟกัสที่จะเข้าไป เนื่องจากนักลงทุนจะสามารถทำธุรกิจได้ 2 ฝ่าย ขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทฯ พร้อมจะเปิดสาขาตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก” นายสิทธิพร กล่าว
วันที่ 17/06/2556 เวลา 6:19 น.